คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ใช้จ่าย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2165/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผิดสัญญาหมั้นและการใช้จ่ายสมควรในการเตรียมสมรส
การที่หญิงหมั้นกับชายโดยชอบด้วยกฎหมาย และเมื่อแต่งงานตามประเพณีแล้วหญิงชวนชายไปจดทะเบียนสมรสหลายครั้ง หญิงย่อมต้องการอยู่กินกับชายโดยชอบด้วยกฎหมาย การที่บิดามารดาและพี่ของชายนั้นไล่หญิงออกจากบ้านหลังจากนั้นชายก็มิได้กระทำการใดเพื่อให้หญิงกลับมาอยู่กินฉันสามีภริยา ชายนั้นจึงผิดสัญญาญาหมั้น
หญิงและชายต่างมีฐานะดี ในการจัดงานเลี้ยงแต่งงานมีการเชิญแขกประมาณ 600 คน และเลี้ยงโต๊ะจีน การที่หญิงซื้อชุดแต่งงานเพื่อเข้าพิธีจำนวน 4 ชุด เป็นเงิน 28,000 บาท เป็นการใช้จ่ายอันสมควรในการเตรียมการสมรสเรียกค่าทดแทนได้
หญิงซื้อผ้ารับไหว้เพื่อให้ญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชายตามประเพณี มิใช่ค่าใช้จ่ายในการเตรียมการสมรสอันจะเรียกค่าทดแทนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2846/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานปลอมแปลงเงินตราและมีเงินตราปลอม
มีเครื่องมือทำเงินตราปลอม ทำเงินตราปลอม และมีเงินตราปลอมเพื่อใช้ ต้องลงโทษตามมาตรา 240 แต่กระทงเดียว ตาม มาตรา 248 เป็นบทเฉพาะยกเว้น มาตรา 91 ซึ่งแก้โดยประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 วันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 233/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฝากเงินและเจตนาทุจริต: ไม่เป็นความผิดฐานยักยอกหากผู้รับฝากนำไปใช้จ่าย
ฝากเงินให้ช่วยเก็บรักษาไว้ ต่อมานานปีเศษขอเงินคืน แต่ผู้รับฝากคืนให้ไม่ได้โดยอ้างว่า ตัวเองและสามีได้เอาไปใช้จ่ายเสียหมดแล้ว ดังนี้ เป็นเรื่องที่จะว่ากล่าวกันทางแพ่ง ไม่เป็นผิดอาญาฐานยักยอก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 233/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฝากเงินแล้วนำไปใช้จ่าย ไม่เป็นความผิดอาญาฐานยักยอกทรัพย์ แต่เป็นเรื่องทางแพ่ง
ฝากเงินให้ช่วยเก็บรักษาไว้ ต่อมานานปีเศษขอเงินคืนแต่ผู้รับฝากคืนให้ไม่ได้โดยอ้างว่า ตัวเองและสามีได้เอาไปใช้จ่ายเสียหมดแล้วดังนี้ เป็นเรื่องที่จะว่ากล่าวกันทางแพ่ง ไม่เป็นผิดอาญาฐานยักยอกทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 792-793/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้จ่ายเงินปลอมโดยไม่รู้ที่มาและเจตนา ทำให้มีความผิดตามมาตรา 204
ใช้สตางค์ปลอมโดยรู้อยู่ว่าเป็นสตางค์ปลอม แต่ไม่รู้ว่าปลอมในขณะที่ได้มาเป็นผิดตามมาตรา 204

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 111/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองเหรียญกษาปณ์เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของเกษตรกรในพื้นที่ห่างไกล ไม่ถือเป็นผู้ค้าเหรียญกษาปณ์
จำเลยมีเหรียนกสาปน์รวมเปนเงิน 91 บาท 54 สตางค์ สำหรับจ่ายเปนค่าจ้างลูกจ้างทำนา และได้มาจากการขายข้าว หยู่ไนหมู่บ้านที่ไม่มีตลาดไม่มีที่แลกสตางค์ ไม่เรียกว่าเกินสมควนสำหรับปรกติธุระหรือเกินจำเปนสำหรับการไช้จ่ายปรกติ ไม่ถือว่าเปนผู้ค้าเหรียนกสาปน์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 111/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีเหรียญกษาปณ์เพื่อใช้จ่ายตามปกติในพื้นที่ห่างไกล ไม่ถือเป็นผู้ค้าเหรียญ
จำเลยมีเหรียญกษาปณ์รวมเป็นเงิน 91 บาท 54 สตางค์สำหรับจ่ายเป็นค่าจ้างลูกจ้างทำนา และได้มาจากการขายข้าว อยู่ในหมู่บ้านที่ไม่มีตลาดไม่มีที่แลกสตางค์ ไม่เรียกว่าเกินสมควรสำหรับปกติธุระหรือเกินจำเป็นสำหรับการใช้จ่ายปกติ ไม่ถือว่าเป็นผู้ค้าเหรียญกษาปณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีสตางค์ไว้เกินสมควรสำหรับประกอบการค้าและใช้จ่าย ศาลยกฟ้องเนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอ
จำเลยทำจักสานขายและรับซื้อเครื่องจักสานไว้ขาย มีสตางค์ไว้ในครอบครอง 24 บาท ถือได้ว่าเปนผู้ประกอบการค้าและอุสาหกัม และไม่ถือว่ามีไว้เกินสมควนสำหรับปรกติธุระหรือเกินจำเปนสำหรับการใช้จ่ายปรกติ ไม่มีความผิด.