คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ใช้บังคับได้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 12 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4799/2549 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาการรับโอนบัตรภาษีที่มีข้อตกลงรับผิดชอบการทุจริตของผู้โอนสิทธิ ถือเป็นสัญญาที่ใช้บังคับได้
จำเลยอุทธรณ์โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลภาษีอากรกลางในปัญหาตามข้ออ้างตามคำฟ้องโจทก์อันเป็นข้อที่ได้ว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลภาษีอากรกลาง เป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยกฎหมายตาม ป.วิ.พ. มาตรา 225 ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 มาตรา 29 แม้จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ จำเลยก็มีสิทธิอุทธรณ์ได้ ไม่มีบทกฎหมายห้าม
ข้อสัญญาที่จำเลยให้ไว้แก่กรมศุลกากรโจทก์ตามคำร้องขอรับโอนสิทธิตามบัตรภาษีที่ว่า ในกรณีเกิดการทุจริตในการขอรับชดเชยค่าภาษีอากรและเกิดความเสียหายแก่โจทก์ไม่ว่ากรณีใด ๆ จำเลยยินยอมรับผิดต่อโจทก์ทุกประการ มิใช่ความตกลงยกเว้นมิให้ลูกหนี้ต้องรับผิดเพื่อกลฉ้อฉลหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของตนอันเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 373 แต่เป็นข้อสัญญาอย่างหนึ่งซึ่งไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามจึงใช้บังคับได้ไม่เป็นโมฆะ
การที่กรมศุลกากรโจทก์ออกบัตรภาษีให้แก่จำเลยเกิดจากการทุจริตของบริษัท ท. ผู้ขอโอนสิทธิให้แก่จำเลย และจำเลยนำบัตรภาษีไปใช้ชำระค่าภาษีอากรหมดแล้ว จำเลยจึงต้องรับผิดใช้เงินตามมูลค่าบัตรภาษีให้แก่โจทก์ตามข้อสัญญาที่จำเลยให้ไว้แก่โจทก์โดยมิพักต้องคำนึงว่าจำเลยได้รับโอนบัตรภาษีมาโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนตามบทกฎหมายเรื่องลาภมิควรได้หรือไม่ เมื่อความรับผิดของจำเลยเป็นความรับผิดอันเกิดแต่สัญญา และเป็นหนี้ที่ไม่มีกำหนดเวลาชำระตามวันแห่งปฏิทิน จำเลยต้องรับผิดใช้ดอกเบี้ยเมื่อผิดนัดตาม ป.พ.พ. มาตรา 224 วรรคหนึ่ง โจทก์มีหนังสือทวงถามให้จำเลยใช้เงินตามบัตรภาษีแก่โจทก์ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือทวงถาม จำเลยได้รับหนังสือทวงถามวันที่ 23 มกราคม 2547 ครบกำหนดจำเลยชำระหนี้วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2547 จำเลยจึงตกเป็นผู้ผิดนัดและต้องรับผิดใช้ดอกเบี้ยให้แก่โจทก์นับแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2547 เป็นต้นไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1510/2542 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจำนองยังใช้บังคับได้ แม้มีข้อตกลงโอนกรรมสิทธิ์ที่ไม่สมบูรณ์
การที่จำเลยผู้จำนองและโจทก์ผู้รับจำนองได้ทำหนังสือมอบอำนาจ โดยจำเลยยอมโอนที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นทรัพย์จำนอง ให้แก่โจทก์เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้อันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 711 นั้น ย่อมมีผลเพียงทำให้ข้อตกลงดังกล่าวไม่สมบูรณ์โดยโจทก์จะบังคับหรือ ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้เท่านั้น หามีผลทำให้นิติกรรม การจดทะเบียนจำนองระหว่างโจทก์กับจำเลยในส่วนอื่น ที่กระทำโดยชอบต้องเสียไปหรือไม่สมบูรณ์แต่อย่างใด เมื่อปรากฏว่า จำเลยยังมิได้ชำระหนี้และจดทะเบียนไถ่ถอนจำนอง สัญญาจำนอง ระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงยังมีผลใช้บังคับได้ โจทก์ย่อมมี อำนาจฟ้องจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมไม่สมบูรณ์แต่ใช้บังคับได้ อายุความ และสินสมรส
เจ้ามรดกมีเจตนาจะทำพินัยกรรมเป็นแบบเอกสารฝ่ายเมืองแต่ไม่ได้ไปทำต่อกรมการอำเภอจึงไม่สมบูรณ์เป็นพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมืองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1658แต่พินัยกรรมดังกล่าวเจ้ามรดกเป็นผู้เขียนขึ้นเองทั้งฉบับจึงมีผลใช้บังคับได้ตามมาตรา1657หากเจ้ามรดกไม่ประสงค์ให้พินัยกรรมมีผลบังคับได้ต่อไปจะต้องเพิกถอนเสียโดยการทำลายหรือขีดฆ่าเสียด้วยความตั้งใจตามมาตรา1695แม้เจ้ามรดกจะได้พูดสั่งเสียต่อหน้าญาติผู้ใหญ่หลายคนเป็นทำนองเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อกำหนดในพินัยกรรมแต่ไม่มีการบันทึกและลงลายมือชื่อให้ถูกต้องสมบูรณ์เป็นพินัยกรรมแบบใดแบบหนึ่งตามมาตรา1656ถึงมาตรา1669จึงไม่มีผลเปลี่ยนแปลงแก้ไขพินัยกรรม การที่จำเลยตกลงแบ่งที่นาบ้านและยุ้งข้าวพิพาทให้แก่โจทก์ตามพินัยกรรมแล้วเพิ่งกลับใจไม่ยอมโอนให้ในภายหลังย่อมถือได้ว่าจำเลยได้ละเสียแล้วซึ่งประโยชน์แห่งอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา192แม้โจทก์จะฟ้องคดีภายหลังเจ้ามรดกถึงแก่กรรมแล้วเกิน1ปีคดีก็ไม่ขาดอายุความ บ้านและยุ้งข้าวพิพาทเป็นของเจ้ามรดกมีมาก่อนแต่งงานกับจำเลยจึงมิใช่สินสมรสของจำเลยกับเจ้ามรดก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับหนี้โดยการลงลายมือชื่อรับเงินภายหลัง ทำให้เอกสารมีผลใช้บังคับได้ตามกฎหมาย
เอกสารลงวันที่ 4 มกราคม 2521 ซึ่งจำเลยเขียนให้โจทก์ภายหลังทำเอกสารสัญญากู้หมาย จ.1- จ.5 มีใจความว่าจำเลยค้างเงินโจทก์เป็นเงิน 3,732 บาท ไม่คิดดอกเบี้ย จะชำระให้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2521 และลงลายมือชื่อจำเลยฝ่ายเดียว ต่อมาวันที่ 3 มีนาคม 2521จำเลยชำระเงินรายนี้ให้โจทก์ 1,000 บาท โจทก์ลงลายมือชื่อรับเงินไว้ใกล้ ๆ กับข้อความที่จำเลยเขียนให้ไว้เดิม ถือได้ว่าโจทก์ยอมรับความถูกต้องของข้อความในเอกสารทั้งหมด จึงเป็นหลักฐานการใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2237/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเงินกู้จากการสู่ขอและเงินสินสอด แม้ไม่จดทะเบียนสมรสก็ใช้บังคับได้
ให้สินสอดโดยทำสัญญากู้ให้ แม้เงินที่ลงไว้ในสัญญากู้จะไม่ใช่สินสอดตามความหมายของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1436 เพราะเป็นการแต่งงานกันตามประเพณีโดยคู่กรณีไม่ถือเอาการจดทะเบียนสมรสเป็นสำคัญก็ตาม แต่เมื่อจำเลยตกลงจะให้เงินตอบแทนแก่โจทก์ในการที่บุตรสาวของโจทก์จะแต่งงานอยู่กินกับบุตรชายของจำเลยโดยทำสัญญากู้ให้ไว้ดังกล่าว เมื่อได้มีการแต่งงานอยู่กินเป็นสามีภรรยากันแล้วจำเลยก็ต้องชำระเงินดังกล่าวแก่โจทก์ โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 289/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขาย-โอนคืนที่ดิน: สัญญาต่างตอบแทน แม้มิได้จดทะเบียนก็ใช้บังคับได้
จำเลยประสงค์จะได้ที่ดินเพื่อตั้งโรงเลื่อยจักร จึงให้โจทก์โอนที่ดินให้เป็นของจำเลยในเมื่อยังดำเนินกิจการอยู่ และในคราวเดียวกัน โจทก์ประสงค์จะได้คืนที่ดินนั้นมา เมื่อจำเลยเลิกกิจการแล้ว การทำสัญญาโอนทำเป็นการซื้อขาย มูลค่า 4,000 บาท และจดทะเบียน ส่วนสัญญาเรื่องโอนคืนทำเป็นหนังสือไม่ได้จดทะเบียน ซึ่งจำเลยยอมสัญญาตอบแทนว่าถ้าจำเลยเลิกกิจการ จำเลยจะโอนคืนโดยไม่คิดมูลค่า ข้อตกลงนี้มิใช่การให้ตามกฎหมายลักษณะให้แต่เป็นการปฏิบัติตอบแทนแก่อีกฝ่ายหนึ่งจากผลที่ได้รับ จึงเป็นสัญญาต่างตอบแทนแม้มิได้ทำเป็นหนังสือหรือจดทะเบียนก็ย่อมใช้บังคับแก่กันได้ จำเลย ต้องโอนที่พิพาทให้โจทก์ตามสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1631-1634/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเล่นแชร์เปียหวยไม่เป็นการกู้ยืม สัญญาใช้บังคับได้ ไม่ขาดอายุความ
การเล่นแชร์เปียหวยไม่เป็นการกู้ยืม แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือก็ฟ้องร้องกันได้ การประมูลให้ดอกเบี้ยกัน ถือไม่ได้ว่าเป็นการให้ดอกเบี้ยในการกู้ยืม เป็นลักษณะการประมูลว่าใครจะให้ประโยชน์สูงกว่ากันเท่านั้น มิได้กำหนดอัตราให้เรียกร้องกันได้อย่างไร จึงไม่อยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 654
การเล่นแชร์เปียหวยเกิดขึ้นจากความตกลงกันในระหว่างผู้เล่น จึงเป็นสัญญาชนิดหนึ่ง เมื่อไม่มีกฎหมายห้ามก็ใช้บังคับได้ แม้จะไม่เป็นการกู้ยืม จำเลยก็ไม่มีเหตุที่จะอ้างได้ว่าจำเลยได้ทรัพย์ไปโดยไม่มีมูลที่จะอ้างได้ตามกฎหมาย กรณีไม่เป็นลาภมิควรได้ (อ้างฎีกาที่ 629/2486)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาปราณีประนอมยอมความใช้บังคับได้แม้พินัยกรรมเป็นโมฆะ หากไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม
ทายาทตามพนัยกรรมตกลงกันทำสัญญาปราณีประนอมยอมความว่าให้ถือเอาตามพินัยกรรมซึ่งตามกฎหมายเป็นโมฆะแล้วนั้นใช้บังคับได้ สัญญานั้นย่อมสมบูรณ์มีผลบังคับได้ เพราะพินัยกรรมนั้นไม่ได้มีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนและสัญญาปราณีประนอมนั้น ก็ไม่ต้องห้ามตามบทกฎหมายใด ๆ
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์มีสิทธิได้รับมรดกตามพินัยกรรม เพราะจำเลยทำสัญญาปราณีประนอมยอมความให้ถือเอาตามพินัยกรรมนั้นแล้ว จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยทำสัญญาโดยสำคัญผิดว่าพินัยกรรมนั้นเป็นของแท้จริงและถูกต้องตาม ก.ม.ประการหนึ่ง และอีกประการหนึ่งจำเลยต่อสู้ว่า สามีจำเลยได้บอกล้างนิติกรรมที่จำเลยได้กระทำไปโดยมิได้รับความยินยอมแล้วเช่นนี้ จำเลยซึ่งเป็นผู้กล่าวอ้างต้องนำสืบก่อน เมื่อไม่สืบก็ไม่มีข้อเท็จจริงจะวินิจฉัยตามข้อต่อสู้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความใช้บังคับได้แม้พินัยกรรมเป็นโมฆะ หากไม่มีวัตถุประสงค์ขัดต่อกฎหมาย และจำเลยไม่นำสืบข้อต่อสู้
ทายาทตามพินัยกรรมตกลงกันทำสัญญาประนีประนอมยอมความว่าให้ถือเอาตามพินัยกรรมซึ่งตามกฎหมายเป็นโมฆะตามมาตรา 1705, 1653 แล้วนั้นใช้บังคับได้สัญญานั้นย่อมสมบูรณ์มีผลบังคับได้ เพราะพินัยกรรมนั้นไม่ได้มีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนและสัญญาประนีประนอมกันก็ไม่ต้องห้ามตามบทกฎหมายใดๆ
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์มีสิทธิได้รับมรดกตามพินัยกรรมเพราะจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความให้ถือเอาตามพินัยกรรมนั้นแล้วจำเลยต่อสู้ว่าจำเลยทำสัญญาโดยสำคัญผิดว่าพินัยกรรมนั้นเป็นของแท้จริงและถูกต้องตามกฎหมายประการหนึ่ง และอีกประการหนึ่งจำเลยต่อสู้ว่าสามีจำเลยได้บอกล้างนิติกรรมที่จำเลยได้กระทำไปโดยมิได้รับความยินยอมแล้วเช่นนี้จำเลยซึ่งเป็นผู้กล่าวอ้างต้องนำสืบก่อน เมื่อไม่สืบก็ไม่มีข้อเท็จจริงจะวินิจฉัยตามข้อต่อสู้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39-40/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาปรานีประนอมใช้บังคับได้ แม้ไม่มีต้นฉบับ แต่มีสำเนาที่ถูกต้องและพยานเบิกความรับรอง
บันทึกการเปรียบเทียบชั้นอำเภอ ซึ่งนายอำเภอได้อ่านให้ทั้งสองฝ่ายฟังและลงลายมือชื่อไว้นั้น เป็นสัญญาปราณีประนอมใช้บังคับได้ตามกฏหมาย.
คู่ความอ้างต้นฉะบับบันทึกอยู่ที่อำเภอ แต่-อำเภอไม่สามารถส่งศาลได้ เพราะยากแก่นำส่ง แต่ได้ส่งสำเนามาแทนโดยมีกรมการอำเภอรับรองถูกต้อง และมีนานยอำเภอเบิกความรับรองประกอบนั้น รับฟัแทนต้นฉะบับได้.
เอกสารทำต่อหน้ากรมการอำเภอ เป็นเอกสารทำต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลแพ่ง ฯ ไม่จำต้องมีพะยานลงชื่อรับรองสองคน.
of 2