พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4175/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการใช้หนี้แทนและการไถ่ถอนจำนอง: การชำระหนี้ทั้งหมดเพื่อไถ่ถอนทรัพย์สินจำนอง
เมื่อโจทก์อยู่ในฐานะผู้ที่จะได้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทซึ่งอาจจะต้องเสี่ยงภัยเสียสิทธิในการรับโอนหากปล่อยให้จำเลยเจ้าหนี้จำนองบังคับคดีโดยการขายทอดตลาดโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะเข้าใช้หนี้จำเลยแทนผู้จำนองได้ตามนัยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา230 หนี้จำนองย่อมครอบไปถึงบรรดาทรัพย์สินที่จำนองทุกสิ่งแม้จะได้ชำระหนี้ไปแล้วบางส่วนตามนัยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา716แม้จะมีการไถ่ถอนทรัพย์สินซึ่งจำนองไปบางส่วนแล้วก็ตามทรัพย์สินจำนองที่เหลืออยู่จะต้องเป็นประกันการชำระหนี้ทั้งจำนวนตามสิทธิของสัญญาจำนองเมื่อได้ความว่าหนี้จำนองที่บริษัทส.มีต่อจำเลยจำนวน5,396,629.37บาทแต่มีที่พิพาทเป็นทรัพย์จำนองเพียงแปลงเดียวโจทก์ผู้รับโอนที่พิพาทจึงไม่มีอำนาจฟ้องบังคับจำเลยรับชำระหนี้ไถ่ถอนจำนองเพียงจำนวน386,784.60บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2758/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำนองระงับเมื่อชำระหนี้ & การใช้หนี้แทนลูกหนี้ก่อให้เกิดผลผูกพัน
โจทก์ทำสัญญาจำนองที่ดินเป็นประกันหนี้ของโจทก์ที่มีต่อจำเลยเมื่อโจทก์ได้ใช้เงินแก่จำเลยครบถ้วนตามสัญญาจำนองแล้ว หนี้ตามสัญญาจำนองที่โจทก์มีต่อจำเลยจึงเป็นอันระงับสิ้นไป สัญญาจำนองที่โจทก์ทำไว้แก่จำเลยย่อมระงับสิ้นไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 744 (1) จำเลยจึงมีหน้าที่ไปขอจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองที่ดินดังกล่าว
โจทก์มีหนังสือถึงจำเลยขอมอบที่ดินให้จำเลยทำการแทนในการซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์เพื่อเป็นการชำระหนี้บางส่วนของ พ. จึงเป็นกรณีที่โจทก์สมัครใจเข้ามาใช้หนี้ของ พ.ลูกหนี้โจทก์แทน พ.โดยยอมให้จำเลยขายที่ดินของโจทก์นำเงินมาชำระหนี้ ย่อมก่อให้เกิดผลผูกพันโจทก์ จำเลยจึงมีสิทธิยึดถือโฉนดที่ดินตามฟ้องไว้จนกว่าความรับผิดในหนี้ของ พ.จะสิ้นไป
โจทก์มีหนังสือถึงจำเลยขอมอบที่ดินให้จำเลยทำการแทนในการซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์เพื่อเป็นการชำระหนี้บางส่วนของ พ. จึงเป็นกรณีที่โจทก์สมัครใจเข้ามาใช้หนี้ของ พ.ลูกหนี้โจทก์แทน พ.โดยยอมให้จำเลยขายที่ดินของโจทก์นำเงินมาชำระหนี้ ย่อมก่อให้เกิดผลผูกพันโจทก์ จำเลยจึงมีสิทธิยึดถือโฉนดที่ดินตามฟ้องไว้จนกว่าความรับผิดในหนี้ของ พ.จะสิ้นไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1772/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาต่างตอบแทนและการแปลงหนี้: การใช้หนี้แทนบุคคลอื่นและการทำสัญญากู้ยืมเงิน
เจ้าของเรือนกู้เงินโจทก์จำเลยต่อมาจำเลยจะรื้อเอาเรือนไป โจทก์คัดค้าน ในที่สุดจำเลยตกลงจะใช้หนี้ให้โจทก์แทนเจ้าของเรือนโดยโจทก์เลิกคัดค้าน มอบเรือนให้จำเลยไป ดังนี้ถือว่าเป็นสัญญาต่างตอบแทนมีผลสมบูรณ์ผูกพันกันตามกฎหมายได้ และหากจำเลยไม่มีเงินใช้ให้โจทก์ตามสัญญา จึงทำหนังสือกู้ให้โจทก์ไว้ ก็เป็นการแปลงหนี้เดิมมาเป็นหนี้กู้ยืมเงินซึ่งมีผลสมบูรณ์และบริบูรณ์ตามกฎหมาย ผูกพันกันได้ตามสัญญากู้