คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ใช้โดยมิชอบ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 663/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ฉลากเครื่องหมายการค้าปลอม แม้ไม่เข้าข่ายปลอมแปลง แต่เข้าข่ายใช้เครื่องหมายการค้าผู้อื่นโดยมิชอบ
พยานหลักฐานโจทก์ซึ่งมีแต่คำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยว่าจำเลยซื้อเครื่องหมายการค้าปลอมจากผู้อื่น แล้วให้ลูกจ้างของจำเลยปิดฉลากเครื่องหมายการค้านั้นที่ขวดซีอิ๊ว เพียงเท่านี้ถือไม่ได้ว่าจำเลยปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นตาม ป.อ.มาตรา 273 ตามที่โจทก์ฟ้อง แต่การกระทำดังกล่าวของจำเลยเป็นการเอาชื่อ รูป รอยประดิษฐ์ และข้อความในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้ หรือทำให้ปรากฏที่สินค้า เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่นเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 272(1)แม้โจทก์มิได้ระบุขอให้ลงโทษตามมาตรานี้ แต่ตามคำบรรยายฟ้องโจทก์พอจะถือได้ว่าได้บรรยายฟ้องรวมการกระทำอันเป็นความผิดตามมาตรา272(1) ไว้ด้วยแล้ว ศาลลงโทษจำเลยตามมาตรา 272(1) ซึ่งมีโทษเบากว่ามาตรา 273 ได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย และการกระทำผิดดังกล่าวเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดีศาลพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยอื่น ๆ ที่มิได้ฎีกาด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1184-1187/2565

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์โดยมิชอบ ความผิดตามมาตรา 269/5 แม้ได้รับมอบหมายให้ใช้แต่ใช้นอกเหนือจากที่ได้รับมอบหมายถือเป็นความผิด
โจทก์ร่วมเปิดบัญชีเงินฝาก ธนาคารให้รหัสผู้ใช้และรหัสผ่านแก่โจทก์ร่วม ซึ่งโจทก์ร่วมใช้ข้อมูลบัญชีเงินฝาก รหัสผู้ใช้และรหัสผ่านบนโปรแกรมทางอินเทอร์เน็ตในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ ชำระหนี้อื่นแทนการชำระเงินสด ใช้โอนเงินจากบัญชีเงินฝากของโจทก์ร่วมไปยังบัญชีเงินฝากของบุคคลอื่น ใช้ในการเบิกถอนเงินสด หรือใช้ในธุรกรรมอย่างอื่น ถือได้ว่าเป็นการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ตามความหมายของมาตรา 1 (14) (ข) แห่ง ป.อ.
ข้อมูลบัญชีเงินฝากธนาคาร รหัสผู้ใช้และรหัสผ่านที่โจทก์ร่วมได้รับมา เป็นข้อตกลงระหว่างธนาคารและโจทก์ร่วมในการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ โดยโจทก์ร่วมต้องเก็บรักษาเป็นความลับของตนมิให้ผู้ใดล่วงรู้ การที่โจทก์ร่วมให้จำเลยที่ 2 ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์โดยการบอกข้อมูลบัญชีเงินฝากธนาคาร รหัสผู้ใช้และรหัสผ่านแก่จำเลยที่ 2 ในฐานะลูกจ้าง ก็เพื่อให้ทำธุรกรรมบนโปรแกรมทางอินเทอร์เน็ตแทนโจทก์ร่วมให้เป็นไปตามที่โจทก์ร่วมสั่งหรือมอบหมายให้ทำ หาใช่นำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ไปใช้เกินกว่าที่โจทก์ร่วมสั่งหรือมอบหมายให้ทำไม่ การที่จำเลยที่ 2 ใช้ข้อมูลบัญชีเงินฝากธนาคาร รหัสผู้ใช้และรหัสผ่านของโจทก์ร่วมโอนเงินจากบัญชีเงินฝากของโจทก์ร่วมไปยังบัญชีเงินฝากของจำเลยที่ 1 โดยโจทก์ร่วมไม่ได้สั่งหรือมอบหมายให้ทำ ย่อมเป็นการทำโดยไม่มีอำนาจและโจทก์ร่วมไม่ได้ยินยอม ทำให้โจทก์ร่วมได้รับความเสียหายสูญเสียเงินฝากในบัญชี จึงเป็นการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของโจทก์ร่วมโดยมิชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2564

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ข้อมูลบัตรเครดิตชำระค่าบริการทางเว็บไซต์ถือเป็นการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์โดยมิชอบ
บัตรเครดิตเป็น "บัตรอิเล็กทรอนิกส์" ตามนิยามแห่ง ป.อ. มาตรา 1 (14) (ก) ซึ่งผู้ออกได้ออกเอกสารคือบัตรเครดิตให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ ส่วนข้อมูลบัตรเครดิต ได้แก่ หมายเลขบัตรเครดิต ชื่อผู้ถือ และวันหมดอายุ ซึ่งปรากฏอยู่บนบัตรเครดิตนั้น ไม่เป็น "บัตรอิเล็กทรอนิกส์" ตามนิยามแห่ง ป.อ. มาตรา 1 (14) (ข) แต่การกระทำใดเป็นการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ต้องพิจารณาว่าการกระทำนั้นเป็นวิธีใช้โดยทั่วไปของบัตรอิเล็กทรอนิกส์ชนิดนั้นหรือไม่ ไม่จำกัดว่าหากเป็น "บัตรอิเล็กทรอนิกส์" ตามนิยามแห่ง ป.อ. มาตรา 1 (14) (ก) แล้ว การใช้จะต้องเป็นการใช้เอกสารหรือวัตถุอื่นใดที่ผู้ออกได้ออกให้โดยตรงเท่านั้น เพราะสามารถใช้เฉพาะข้อมูลหรือรหัสได้เช่นเดียวกัน การที่จำเลยนำข้อมูลบัตรเครดิตของโจทก์ไปใช้ชำระค่าบริการที่พักของจำเลยผ่านเว็บไซด์ จึงเป็นการใช้บัตรเครดิตของโจทก์โดยมิชอบ