คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ใบแต่งทนายความ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5858/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทนายความในการฎีกา: การตรวจสอบขอบเขตอำนาจตามใบแต่งทนายความ
คำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกา คำร้องขอให้รับรองฎีกาว่ามีเหตุอันควรฎีกาได้และคำฟ้องฎีกาของจำเลย ที่ บ. ทนายเป็นผู้ยื่นคำร้องและฎีกาแทนจำเลย แต่ตามใบแต่งทนายความที่จำเลยแต่งให้ บ. ทนายความของจำเลยไม่ได้ระบุให้มีอำนาจใช้สิทธิในการฎีกา บ. ทนายความของจำเลยจึงไม่มีอำนาจที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาใช้สิทธิในการฎีกาคดีนี้แทนจำเลยได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 62 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 คำร้องขอขยายระยะเวลา คำร้องขอให้รับรองฎีกาว่ามีเหตุอันควรฎีกาได้ และคำฟ้องฎีกา จึงเป็นคำร้องและคำฟ้องไม่ชอบ แม้ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลาฎีกาและมีคำสั่งอนุญาตให้ฎีกาและมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยมา ก็เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7175/2543

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่ชอบเนื่องจากทนายความมิได้ยื่นใบแต่งทนายความ และจำเลยทิ้งฎีกา ทำให้ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำฟ้องฎีกาของจำเลยมี ส. ทนายความ เป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ฎีกา ผู้เรียงและผู้พิมพ์ โดย ส. มิได้ยื่นใบแต่งทนายความไว้แต่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยโดยมิได้มีคำสั่งให้ ส. ยื่นใบแต่งทนายความเข้ามาให้ถูกต้องเสียก่อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 232 และมาตรา 18กรณีเช่นนี้ต้องถือว่าศาลชั้นต้นมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณา เมื่อปรากฏว่าจำเลยทิ้งฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 จึงเป็นการล่วงเลยเวลา ที่ศาลฎีกาจะสั่งให้ศาลชั้นต้นดำเนินการให้ถูกต้องตามกระบวนพิจารณาดังกล่าว ฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1999/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขใบแต่งทนายความหลังยื่นฟ้อง ผลต่อการสมบูรณ์ของอำนาจฟ้อง และการใช้ดุลยพินิจของศาลตามมาตรา 66 ว.พ.พ.
ทนายความของบริษัทโจทก์เป็นผู้ลงนามเป็นโจทก์ในคำฟ้องแต่ใบแต่งทนายความลงนามโดยผู้ไม่มีอำนาจตามที่จดทะเบียนไว้ จำเลยยื่นคำให้การคัดค้านอำนาจฟ้องของโจทก์ไว้แล้ว ครั้นสืบพยานโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อนเสร็จ โจทก์ได้ยื่นใบแต่งทนายความฉบับใหม่ลงนามกรรมการ 2 นายและประทับตราสำคัญของบริษัทโจทก์ถูกต้องตามที่ได้จดทะเบียนไว้ ดังนี้ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลย่อมมีอำนาจสั่งรับใบแต่งทนายความใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 66 และเนื่องด้วยบทกฎหมายดังกล่าวไม่ได้กำหนดว่าศาลจะมีคำสั่งได้ภายในเมื่อใด ศาลจึงสั่งรับใบแต่งทนายความใหม่ภายหลังสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วก็ได้ ทั้งการที่มาตรานี้บัญญัติให้ศาลมีอำนาจสอบสวนถึงอำนาจฟ้องได้ ก็ย่อมเป็นเวลาภายหลังยื่นฟ้องแล้ว เมื่อศาลเห็นว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องหรือำนาจฟ้องบกพร่อง แต่ศาลไม่ใช่อำนาจยกฟ้องโดยสั่งให้โจทก์แก้ไขอำนาจฟ้องให้สมบูรณ์หรือยอมรับการแก้ไขอำนาจฟ้องให้สมบูรณ์ ก็ย่อมทำให้อำนาจฟ้องที่ไม่สมบูรณ์นั้นเป็นอำนาจฟ้องที่สมบูรณ์มาแต่เริ่มแรก เพราะมิฉะนั้นแล้วก็เท่ากับให้ศาลใช้อำนาจยกฟ้องอย่างเดียว ถ้อยคำที่ว่า "หรือมีคำพิพากษาหรือคำสั่งอย่างอื่นได้ตามที่เห็นสมควร เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม"ก็จะไม่มีความหมายอะไรไป