คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ได้มา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1443/2543 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบทรัพย์สินต้องเชื่อมโยงกับความผิดที่พิสูจน์ได้ การได้มาซึ่งทรัพย์สินด้วยความผิดต้องมีการฟ้องและพิสูจน์ความผิดก่อน
ทรัพย์สินที่ศาลมีอำนาจสั่งริบได้ตาม ป.อ.มาตรา 33 (1) (2)จะต้องเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยได้กระทำความผิด ซึ่งหมายถึงว่า จะต้องมีการฟ้องจำเลยในความผิดดังกล่าว และได้มีการพิสูจน์ความผิดนั้นต่อศาล และศาลพิพากษาว่าจำเลยได้กระทำความผิดจึงจะริบทรัพย์สินนั้นได้ อันถือเป็นการลงโทษอย่างหนึ่งตามป.อ.มาตรา 18 (5)
ธนบัตรของกลางมิใช่ทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิด ตาม ป.อ.มาตรา 32 เมื่อโจทก์ยังมิได้ฟ้องจำเลยถึงการกระทำความผิดในครั้งก่อนโดยตรงกรณีเพียงแต่การกล่าวอ้างพาดพิงถึงว่าธนบัตรของกลางเป็นทรัพย์ที่จำเลยได้มาจากการขายเมทแอมเฟตามีนไปก่อนหน้านี้ จึงยังไม่เป็นการเพียงพอตามเจตนารมณ์ของ ป.อ มาตรา 18 (5) และ 33 (2) เพื่อลงโทษจำเลยด้วยการริบทรัพย์สินแม้จำเลยจะได้ให้การรับสารภาพในคดีนี้ ศาลก็ไม่อาจริบธนบัตรของกลางดังกล่าวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3731/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์โดยไม่ปรากฏนิติกรรม การครอบครองปรปักษ์ และข้อยกเว้นสิทธิ
การที่ผู้ร้องทั้งสองอ้างว่าเป็นผู้ได้สิทธิครอบครองที่ดินโดยการจับจองมาแต่เริ่มแรก แต่ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินมีโฉนดของผู้อื่น ถือได้ว่าผู้ร้องทั้งสองเป็นผู้ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์โดยทางอื่นนอกจากนิติกรรม ตามประมวลกฎหมายแพ่ง-และพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสอง นั่นเอง เพราะผู้ร้องทั้งสองไม่ได้ที่ดินมาโดยนิติกรรมจากผู้ใด และได้ความว่าผู้ร้องยังไม่ได้จดทะเบียนการได้มาซึ่งที่ดินดังกล่าวการที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 นำมาตรา 1299 วรรคสอง มาปรับใช้กับคดีผู้ร้องทั้งสองแล้ววินิจฉัยว่า แม้จะฟังว่าผู้ร้องทั้งสองได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองผู้ร้องทั้งสองก็ไม่อาจยกข้อต่อสู้ขึ้นยันโจทก์ได้นั้น ไม่เป็นการวินิจฉัยคดีนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1267/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสิ้นสุดสิทธิครอบครองที่ดินจากการละทิ้ง และการได้มาซึ่งสิทธิครอบครองใหม่ของผู้อื่น
ที่ดินพิพาทโจทก์มีแต่ สิทธิครอบครอง เมื่อโจทก์ละทิ้ง ที่ดิน พิพาทมานานถึง 7-8 ปี ถือ ได้ ว่าโจทก์สละเจตนาครอบครองหรือ ไม่ยึดถือทรัพย์สินพิพาทต่อไปการครอบครองของโจทก์ย่อมสุดสิ้นลงตาม ป.พ.พ. มาตรา 1377 ดังนี้ เมื่อจำเลยเข้ายึดถือที่ดิน พิพาททำประโยชน์ปลูกยางพาราโดย เจตนายึดถือเพื่อตน หลังจากการครอบครองของโจทก์สุดสิ้นแล้ว ดังนี้ จำเลยได้ สิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทตาม ป.พ.พ. มาตรา 1367 และไม่เป็นการละเมิดต่อ โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 792/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งที่ดินโดยพินัยกรรมและการครอบครองปรปักษ์: สิทธิในที่ดินเมื่อพินัยกรรมไม่ชัดเจน
พินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมือง ข้อ 1 ความว่า "ถ้าข้าพเจ้าถึงแก่ความตายไปแล้ว" บรรดาทรัพย์สินของข้าพเจ้าที่มีอยู่แล้ว ที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า ข้าพเจ้ายอมยกให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้ได้ระบุชื่อไว้ในพินัยกรรมนี้ให้เป็นผู้รับทรัพย์สินตามจำนวนซึ่งได้กำหนดไว้ดังต่อไปนี้คือ" ต่อจากนั้นได้ระบุที่ดิน น.ส.3 เนื้อที่ 15 ไร่ 1 งาน 57 ตารางวา ข้อ 2 ความว่า 'ข้าพเจ้าขอมอบพินัยกรรมฉบับนี้แก่คณะกรรมการอำเภอและขอตั้งให้ น. (โจทก์) เป็นผู้จัดการมรดกข้าพเจ้าตามพินัยกรรมนี้ และให้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายทุกประการ" ข้อ 3 ความว่า "ข้อความแห่งพินัยกรรมนี้ กรมการอำเภอได้อ่านให้ข้าพเจ้าฟังโดยตลอดแล้วเป็นการถูกต้องตรงตามความประสงค์ของข้าพเจ้าที่ได้แจ้งให้กรมการอำเภอจดลงไว้ และขณะทำพินัยกรรมนี้ข้าพเจ้ามีสติสมบูรณ์ จึงลงชื่อไว้ต่อหน้ากรมการอำเภอและพยานเป็นสำคัญถัดลงมาเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ทำพินัยกรรมและพยาน 2 คนกับบันทึกของกรมการอำเภอ ดังนี้ พินัยกรรมดังกล่าวเป็นพินัยกรรมตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดก เพราะไม่มีข้อความว่าผู้ทำพินัยกรรมยกที่พิพาทให้โจทก์ แม้ตามคำร้องของผู้ทำพินัยกรรมที่ยื่นต่อนายอำเภอจะมีข้อความว่า ผู้ร้อง (ผู้ทำพินัยกรรม) ประสงค์จะทำพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองยกทรัพย์ให้โจทก์ก็ตาม คำร้องฉบับนี้มิใช่พินัยกรรม จึงรับฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้ที่พิพาทมาโดยพินัยกรรม อย่างไรก็ดีเป็นที่เข้าใจว่า จ. ยกที่พิพาทให้โจทก์เมื่อตนถึงแก่กรรม จึงปรากฏว่าเมื่อจ.ตาย จำเลยก็เลิกทำนาพิพาท ฝ่ายโจทก์คงทำนาพิพาทต่อมาหนึ่งปีแล้วให้บุคคลอื่นเช่า โจทก์จึงเป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาทนับตั้งแต่ จ.ตายตลอดมาโดยเจตนายึดถือเพื่อตน โจทก์ย่อมได้สิทธิครอบครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1096/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งที่ดินโดยมิได้จดทะเบียน ไม่สามารถใช้ยันสิทธิผู้ได้มาโดยเสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนได้
ครอบครองที่ดินมาเกิน 10 ปี โดยมิได้นำสิทธินี้ไปจดทะเบียนจะใช้ยันบุคคลอื่นที่ได้ที่ดินนั้นมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยทุจริต ทั้งได้จดทะเบียนแล้วไม่ได้ ซื้อขายที่ดินโดยทำหนังสือกันเองย่อมเป็นโมฆะ ตามประมวลแพ่งฯ ม. 115 เพราะผิดแบบ (ซื้อ ขาย เมื่อ พ.ศ. 2467)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 751/2477

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ
ได้กรรมสิทธิ