พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5198/2543
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิโจทก์ถอนฟ้องคดีแพ่ง: ดุลพินิจศาลคำนึงถึงความได้เปรียบเสียเปรียบในการดำเนินคดี
การที่โจทก์จะถอนฟ้องคดีแพ่งหรือไม่ เป็นสิทธิของโจทก์ที่จะกระทำได้แต่อยู่ในดุลพินิจของศาลว่าสมควรจะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้หรือไม่ โดยให้ศาลคำนึงถึงความได้เปรียบหรือเสียเปรียบกันในเชิงคดีเท่าที่ต่างดำเนินคดีต่อสู้กันมา
คดียังไม่มีการนำพยานของโจทก์และจำเลยเข้าสืบเพื่อเป็นการสนับสนุนข้ออ้างตามคำฟ้องและข้อเถียงตามคำให้การของฝ่ายตนโดยศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก แต่ทนายจำเลยขอเลื่อนคดีหลังจากนั้นมีการขอเลื่อนนัดสืบพยานโจทก์อีกถึง 10 นัด จนถึงนัดสืบพยานโจทก์ซึ่งเป็นนัดที่โจทก์ทั้งห้าขอถอนฟ้องซึ่งตลอดเวลาดังกล่าวทั้งโจทก์ทั้งห้าและจำเลยทั้งสามได้ขอเลื่อนคดีด้วยเหตุที่ขอเจรจาต่อรองเพื่อตกลงกัน แม้ในที่สุดตกลงกันไม่ได้ ก็หาทำให้ฝ่ายใดต้องเสียเปรียบในเชิงคดีไม่ ที่ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175 แล้ว
คดียังไม่มีการนำพยานของโจทก์และจำเลยเข้าสืบเพื่อเป็นการสนับสนุนข้ออ้างตามคำฟ้องและข้อเถียงตามคำให้การของฝ่ายตนโดยศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก แต่ทนายจำเลยขอเลื่อนคดีหลังจากนั้นมีการขอเลื่อนนัดสืบพยานโจทก์อีกถึง 10 นัด จนถึงนัดสืบพยานโจทก์ซึ่งเป็นนัดที่โจทก์ทั้งห้าขอถอนฟ้องซึ่งตลอดเวลาดังกล่าวทั้งโจทก์ทั้งห้าและจำเลยทั้งสามได้ขอเลื่อนคดีด้วยเหตุที่ขอเจรจาต่อรองเพื่อตกลงกัน แม้ในที่สุดตกลงกันไม่ได้ ก็หาทำให้ฝ่ายใดต้องเสียเปรียบในเชิงคดีไม่ ที่ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการชำระหนี้หลังล้มละลาย: การได้เปรียบเสียเปรียบเจ้าหนี้และการคิดดอกเบี้ย
จำเลยชำระหนี้ให้แก่ผู้คัดค้านหลังจากถูกฟ้องคดีล้มละลายแล้วโดยจำเลยทราบดีว่าตนยังเป็นหนี้เจ้าหนี้รายอื่นและมีทรัพย์สินไม่พอชำระหนี้ได้ การชำระหนี้ให้แก่ผู้คัดค้าน แม้จะเป็นไปตามสัญญาก็เป็นเหตุให้ผู้คัดค้านได้เปรียบเจ้าหนี้รายอื่น แม้จำเลยจะชำระหนี้ให้เจ้าหนี้รายอื่นด้วย แต่จำนวนที่ชำระหนี้ไม่เสมอภาคกัน ถือว่าการชำระหนี้แต่ละราย เป็นเหตุให้เจ้าหนี้แต่ละคนได้เปรียบเสียเปรียบกัน การเพิกถอนการชำระหนี้เป็นไปโดยผลของคำสั่งหรือคำพิพากษาตราบใดยังไม่มีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้เพิกถอนก็ยังเป็นการชำระหนี้โดยชอบ กรณียังถือไม่ได้ว่ามีการผิดนัด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้ร้องคงมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนการชำระหนี้ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มิได้แต่งทนายความแก้ฎีกาศาลฎีกาย่อมไม่กำหนดค่าทนายความชั้นฎีกาให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการชำระหนี้หลังศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์และล้มละลาย: การได้เปรียบเสียเปรียบของเจ้าหนี้
ขณะที่จำเลยชำระหนี้ให้แก่ผู้คัดค้านทั้ง 3 ครั้งนั้นจำเลยย่อมทราบได้ว่า จำเลยยังเป็นหนี้เจ้าหนี้รายอื่นอีก 4 รายจำนวนมากน้อยเท่าใดและมีทรัพย์สินไม่พอที่จะชำระหนี้ได้ ทั้งนี้เพราะจำเลยชำระหนี้ให้แก่ผู้คัดค้านหลังจากถูกฟ้องคดีล้มละลายแล้วดังนั้น เมื่อจำเลยชำระหนี้ให้แก่ผู้คัดค้าน จึงทำให้ผู้คัดค้านได้เปรียบเจ้าหนี้รายอื่น ๆ ที่ผู้คัดค้านอ้างเหตุว่าจำเลยได้ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้รายอื่น ๆ ด้วย และการชำระหนี้ให้แก่ผู้คัดค้านเป็นไปตามสัญญาไม่อาจรับฟังได้ เพราะแม้จำเลยชำระหนี้ให้เจ้าหนี้รายอื่นด้วยแต่จำนวนที่ชำระหนี้ไม่เสมอภาคกัน ถือว่าการชำระหนี้แต่ละราย เป็นเหตุให้เจ้าหนี้ได้เปรียบเสียเปรียบกัน คำร้องขอเพิกถอนการชำระหนี้มีการพิมพ์ผิดพลาดเกี่ยวกับจำนวนหนี้ที่ศาลอนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้เท่านั้น ส่วนข้อความอื่นถูกต้องบริบูรณ์ ข้อผิดพลาดดังกล่าวหาใช่สาระสำคัญไม่ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาให้ผู้คัดค้านเสียดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ยื่นคำร้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้องเป็นการไม่ถูกต้อง เพราะการเพิกถอนการชำระหนี้เป็นไปโดยผลของคำพิพากษา ตราบใดที่ยังไม่มีคำพิพากษาให้เพิกถอนก็ยังเป็นการชำระหนี้โดยชอบอยู่ ถือไม่ได้ว่ามีการผิดนัดนับแต่วันยื่นคำร้อง ผู้ร้องคงมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยนับแต่วันศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนการชำระหนี้ คดีล้มละลายเป็นคดีที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาเห็นสมควรหยิบยกปัญหานี้ขึ้นวินิจฉัยให้