คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ไต่สวนพยานหลักฐาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 6 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3983/2545

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไต่สวนพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์วันหยุดกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ แม้ฝ่ายจำเลยใช้สิทธิทางกฎหมาย
จำเลยยื่นคำแถลงลงวันที่ 23 กันยายน 2540 ต่อศาลชั้นต้นว่าศาลชั้นต้นออกคำบังคับระบุจำนวนค่าเสียหายรายเดือนที่จำเลยต้องชำระไม่ถูกต้อง เพราะจำเลยหยุดการทำละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์หลังจากวันที่ 31 ธันวาคม 2532 แล้ว แต่โจทก์แถลงคัดค้านว่า จำเลยเพิ่งหยุดการทำละเมิดลิขสิทธิ์เมื่อวันที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คือวันที่ 1 มีนาคม 2538 เมื่อต่างฝ่ายต่างกล่าวอ้างเช่นนี้ ข้อเท็จจริงจึงไม่อาจรับฟังเป็นที่ยุติได้ การที่หลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี จำเลยยื่นอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง โจทก์ยื่นฎีกาจำเลยก็ยื่นคำแก้ฎีกาว่ามิได้ทำละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ ยังไม่เพียงพอที่จะให้ฟังว่าจำเลยเพิ่งหยุดทำละเมิดลิขสิทธิ์นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาเนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่จำเลยใช้สิทธิตามกฎหมายวิธีพิจารณาความบัญญัติไว้เท่านั้น มิได้หมายความว่าหลังจากใช้สิทธิตามกฎหมายดังกล่าวแล้วจำเลยจะต้องทำละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ตลอดมา จึงชอบที่ศาลชั้นต้นจะต้องทำการไต่สวนพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายให้สิ้นกระแสความเสียก่อน แล้วจึงมีคำสั่งในเรื่องนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5486/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ข้อเท็จจริงในสัญญาประนีประนอมยอมความ การไต่สวนพยานหลักฐานเป็นสิ่งจำเป็น
ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้จำเลยที่ 2 ไปทำการจดทะเบียนโอนสิทธิในที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้โจทก์ และโจทก์จะชำระเงินค่าที่ดินให้จำเลยที่ 2 พร้อมกัน ณ สำนักงานที่ดินเวลา 11 นาฬิกา ถึงวันนัด ต่างฝ่ายต่างยืนยันว่าฝ่ายตนปฏิบัติตามสัญญา แต่อีกฝ่ายไม่ปฏิบัติตาม โดยจำเลยที่ 2 แถลงว่าจำเลยที่ 2 ได้ไปและคอยโจทก์ที่สำนักงานที่ดินพร้อมด้วยเอกสารอันจำเป็นในการจดทะเบียนโอนสิทธิในที่ดินให้ฝ่ายโจทก์ตั้งแต่เวลา 10.30 นาฬิกา ถึงเวลา 12 นาฬิกา ส่วนโจทก์ยื่นคำร้องว่าโจทก์ได้มอบให้ทนายโจทก์นำเอกสารการรับโอนสิทธิไปสำนักงานที่ดินเวลา 10.45 นาฬิกา และแจ้งทนายจำเลยทราบว่าโจทก์กำลังดำเนินการให้ธนาคารออกเช็คขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่ดินเตรียมเอกสารต่าง ๆในการทำนิติกรรมให้ และโจทก์ได้เดินทางไปถึงสำนักงานที่ดินเมื่อเวลา 12.10 นาฬิกา พร้อมทั้งเช็คและเงินสดเพื่อชำระให้จำเลยที่ 2 แต่จำเลยที่ 2 และเจ้าหน้าที่ที่ดินไม่ดำเนินการจดทะเบียนโอนสิทธิในที่ดินให้ตามสัญญา เช่นนี้ ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรศาลชั้นต้นชอบที่จะทำการไต่สวนให้ได้ความจริงเป็นยุติ โดยเฉพาะถ้าข้ออ้างของโจทก์ที่ว่าได้ให้ทนายโจทก์ไปแจ้งต่อทนายจำเลยที่สำนักงานที่ดินว่าพร้อมที่จะรับโอนที่ดินเป็นความจริง จำเลยที่ 2ก็จะอ้างว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาประนีประนอมยอมความเสียทีเดียวยังไม่ได้ การที่ศาลชั้นต้นเพียงแต่นัดสอบถามแล้วมีคำสั่งว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดนัด เป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5049/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งนัดพิจารณาคดีและการขอพิจารณาคดีใหม่ หากโจทก์ไม่ทราบวันนัด ศาลต้องไต่สวนพยานหลักฐานก่อนพิพากษา
การที่ศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัดโดยโจทก์ไม่ทราบกำหนดวันนัดสืบพยาน โจทก์นั้น กรณีไม่อยู่ในบังคับที่โจทก์จะต้องร้องขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ศาลยกฟ้องตาม ป.วิ.อ. มาตรา 166 วรรคสอง ประกอบมาตรา 181

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3533/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีใหม่เมื่อจำเลยอ้างว่าไม่ทราบวันนัด ศาลต้องไต่สวนพยานหลักฐานก่อนตัดสิน
จำเลยที่ 3 ซึ่งขาดนัดพิจารณาได้ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่โดยอ้างว่ามิได้ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์ จึงมิได้จงใจขาดนัดพิจารณา เมื่อข้อเท็จจริงยังโต้แย้งกันอยู่ว่าจำเลยที่ 3 ได้ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์แล้วหรือไม่ ย่อมต้องพิจารณาจากทางไต่สวนพยานหลักฐานของคู่ความ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องโดยถือว่าจำเลยที่ 3 ทราบวันนัดสืบพยานโจทก์แล้ว และศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงจากพฤติการณ์ต่าง ๆ ในสำนวนแล้วพิพากษาให้ศาลชั้นต้นพิจารณาคดีเฉพาะจำเลยที่ 3 ใหม่ตั้งแต่เวลาที่ขาดนัดโดยมิได้ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนพยานหลักฐานของคู่ความก่อน ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209 ประกอบด้วยมาตรา 21 ศาลฎีกาจึงให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ 3และมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการอายัดสิทธิเรียกร้อง: ศาลต้องไต่สวนพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน
เดิมศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องชั้นบังคับคดีของโจทก์ให้โดยอนุโลมว่าเป็นคำร้องขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 277 และมีคำสั่งกล่าวไว้ชัดว่า โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลทำการไต่สวนว่าจำเลยมีทรัพย์สินอยู่ในความครอบครองของผู้ร้องเป็นจำนวนเท่าใดแล้วยกคำร้อง ต่อมาโจทก์ยื่นคำขออายัดสิทธิเรียกร้องซึ่งมีอยู่ที่ผู้ร้องอีก ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอายัดเงินตามคำขอ ดังนี้ คำสั่งอายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยที่มีไปถึงผู้ร้องครั้งหลังนี้เป็นคำสั่งตามมาตรา 311 ประกอบด้วยมาตรา 310(3) แม้เดิมศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยยินยอมให้ผู้ร้องหักหนี้ไปแล้วก็ตาม ข้อเท็จจริงนั้นก็ไม่ผูกพันโจทก์กรณีขอให้อายัดสิทธิเรียกร้องของจำเลยครั้งหลังนี้เมื่อผู้ร้องได้ปฏิเสธหรือโต้แย้งหนี้ที่โจทก์เรียกร้องศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะไต่สวนพยานหลักฐานโจทก์และผู้ร้องให้เสร็จสิ้นกระแสความก่อนจะมีคำสั่งในเรื่องนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9134/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไต่สวนพยานหลักฐานในคดีละเมิดอำนาจศาลต้องชอบด้วยกฎหมาย แม้ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้อุทธรณ์ ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้
ผู้ถูกกล่าวหาถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลโดยที่มิได้กระทำต่อหน้าศาล และผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ ศาลจำต้องไต่สวนพยานหลักฐานเพื่อหาข้อเท็จจริงก่อน การที่ศาลชั้นต้นไม่ได้ไต่สวนดาบตำรวจ ท. พยานของผู้กล่าวหา แล้วรับฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติตามบันทึกข้อความเรื่องรายงานมีผู้กระทำความผิดในบริเวณศาลของดาบตำรวจ ท. ว่า ผู้ถูกกล่าวหานำข้าวกล่อง 2 กล่อง ซึ่งซุกซ่อนเมทแอมเฟตามีน 4 เม็ด ไปฝากให้ น. ผู้ต้องหาในคดีอาญาที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องควบคุมผู้ต้องหาของศาล ดังนี้ บันทึกข้อความดังกล่าวเป็นพยานบอกเล่ายังรับฟังเป็นความจริงยังไม่ได้ การไต่สวนของศาลชั้นต้นจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ปัญหาว่าศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้ผู้ถูกกล่าวหามิได้ฎีกาในปัญหาดังกล่าว ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.พ. มาตา 142 (5) ประกอบด้วยมาตรา 246 และ 247 จึงพิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 6 ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนแล้วมีคำสั่งหรือคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี