คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ไม่ถึงแก่ชีวิต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3502/2548 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนายิงเพื่อประทุษร้าย ไม่ถึงแก่ชีวิต ความผิดฐานทำร้ายร่างกายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
เหตุที่จำเลยยิงผู้เสียหายเนื่องจากผู้เสียหายทวงถามเงินค่าน้ำมันจากจำเลย จำเลยโกรธแล้วขับรถจักรยานยนต์เสียงดังใส่หน้าผู้เสียหาย ต่อมาประมาณ 30 นาที จึงได้กลับมาพร้อมใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย กรณีไม่ใช่เกิดโทสะแล้วยิงผู้เสียหายทันที หากแต่เป็นกรณีเกิดโทสะและออกจากที่เกิดเหตุแล้วประมาณ 30 นาที ซึ่งมีเวลาที่จำเลยคิดไตร่ตรองแล้วจึงหวนกลับมาพร้อมนำอาวุธปืนซึ่งนับว่าเป็นอาวุธที่ร้ายแรงยิงผู้เสียหาย ถือว่าเป็นการกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่การที่จำเลยใช้อาวุธปืนของกลางยิงผู้เสียหายในระยะห่างประมาณ 20 เมตร กระสุนปืนถูกบริเวณคอด้านหน้าขวาและบริเวณชายโครงขวาด้านหน้า ทั้งสองแห่งมีบาดแผลขนาด 0.5 เซนติเมตร ไม่มีความลึก แพทย์ลงความเห็นว่ารักษาหายภายใน 7 วัน แสดงให้เห็นว่ากระสุนไม่มีความรุนแรงพอที่จะทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้อย่างแน่แท้ เพราะเหตุอาวุธปืนซึ่งเป็นปัจจัยที่ใช้ในการกระทำความผิด การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำความผิดตาม ป.อ. มาตรา 289 (4) ประกอบมาตรา 81 วรรคหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3129/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส: เจตนาทำร้าย ไม่ใช่เจตนาฆ่า
จำเลยที่ 1 ใช้มีดดาบปลายแหลมยาวประมาณ 1 แขนฟันศีรษะโจทก์ร่วม2 ที โจทก์ร่วมยกแขนซ้ายขึ้นรับ คมมีดไม่ถูกศีรษะแต่ถูกหลังมือซ้ายระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับโคนนิ้วกลางทำให้เอ็น ขาด และถูกแขนซ้ายท่อนบนมีบาดแผลกว้างครึ่งเซนติเมตร ยาว 2 เซนติเมตร เมื่อโจทก์ร่วมวิ่งหนีแล้วสะดุดล้มลง จำเลยทั้งสองวิ่งตามมา โจทก์ร่วมถูกฟันที่ศีรษะอีก 1 ที มีบาดแผลกว้างครึ่งเซนติเมตร ยาว 2 เซนติเมตรเมื่อ ส. จะเข้าช่วยก็ถูกจำเลยที่ 2 ผลักล้มคว่ำลง แล้วใช้ขวานหน้ากว้างประมาณ 3 นิ้ว ด้ามยาวประมาณ 1 ฟุต ฟันที่กกหูด้านซ้ายมีบาดแผลที่เหนือใบหู 1 แผล กว้าง 3 เซนติเมตร ยาว 8เซนติเมตร และที่หลังใบหูมีบาดแผลกว้าง 1 เซนติเมตร ยาว 3เซนติเมตร แม้มีดดาบของจำเลยที่ 1 กับขวานของจำเลยที่ 2 อาจใช้ทำร้ายบุคคลให้ถึงแก่ความตายได้ แต่ไม่ปรากฏว่าบาดแผลทุกแผลของโจทก์ร่วมกับ ส. ลึกเท่าใด กะโหลกศีรษะของบุคคลทั้งสองแตกหรือไม่เนื้อสมองได้รับอันตรายหรือไม่ โจทก์ร่วมรับการรักษาที่โรงพยาบาล20 กว่าวันแล้วกลับไปรักษาตัวที่บ้านไม่ปรากฏว่ารักษานานเท่าใดส่วน ส. รับการรักษาที่โรงพยาบาล 4 วันแล้วกลับบ้านแต่ต้องมาทำแผลอีก 1 เดือนเศษ พิจารณาถึงบาดแผลของโจทก์ร่วมกับ ส. ทุกแผลแล้วเห็นได้ว่าจำเลยทั้งสองมิได้ฟันโจทก์ร่วมกับ ส. อย่างแรงนอกจากนี้เมื่อโจทก์ร่วมวิ่งหนีแล้วสะดุดล้มลงและถูกจำเลยคนหนึ่งฟันที่ศีรษะอีก 1 ที แล้วก็ไม่ฟันซ้ำอีกทั้งที่มีโอกาสจะฟันซ้ำได้พฤติการณ์เหล่านี้ฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองมีเจตนาฆ่าโจทก์ร่วมกับ ส. คงมีเจตนาทำร้ายบุคคลทั้งสองเท่านั้น เมื่อโจทก์ร่วมกับ ส. ต้องป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน จำเลยทั้งสองจึงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2400/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความพยายามฆ่าที่ไม่บรรลุผลจากอาวุธปืนทำเองความเร็วต่ำ ไม่ถึงแก่ชีวิต
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายในระยะห่าง1-2เมตรกระสุนปืนถูกผู้เสียหายที่ราวนมซ้ายบาดแผลขนาด1X1เซนติเมตรรอบๆบาดแผลมีรอยถลอกเล็กๆหลายแผลรักษาหายภายใน14วันผลการเอกซเรย์ไม่พบโลหะในร่างกายของผู้เสียหายแพทย์ผู้ทำการตรวจชันสูตรบาดแผลของผู้เสียหายสันนิษฐานว่ากระสุนปืนทำขึ้นเองความเร็วต่ำไม่อาจทำอันตรายถึงแก่ความตายได้ทั้งไม่ได้ความว่าถ้ารักษาไม่ทันอาจถึงแก่ความตายได้แสดงว่าอาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงไม่อาจทำให้ผู้เสียหายถึงตายได้ถือว่าการกระทำของจำเลยไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้เพราะปัจจัยที่ใช้ในการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา81.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 437/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพยายามฆ่า: แรงระเบิดไม่ถึงแก่ชีวิต
จำเลยขว้างวัตถุระเบิดขนาดเล็กมาตกระเบิดห่างผู้เสียหาย2 เมตร ขณะผู้เสียหายบังเสาไฟฟ้าหลบอยู่ ผู้เสียหายไม่ได้รับอันตรายจากการระเบิดนั้น ปรากฏว่าวัตถุระเบิดที่จำเลยใช้เป็นวัตถุจำพวกคลอเรตหุ้มด้วยพลาสติก จำนวนวัตถุระเบิดและชิ้นส่วนที่ใส่ผสมมีแรงระเบิดเพียงสามารถทำอันตรายต่อร่างกายให้ได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหายได้เท่านั้น ดังนี้ การขว้างระเบิดของจำเลยย่อมไม่สามารถบรรลุผลให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้อย่างแน่แท้ กรณีจึงต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2546/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธปืนแต่ไม่ถึงแก่ชีวิต
ใช้อาวุธปืนตีเป็นแผลถลอกที่ข้อมือ ไม่มีรอยฟกช้ำ เขียวหรือบวมหรืออาการแสดงว่าเป็นแผลแตกโลหิตตก รักษา 5 วันหาย ไม่เป็นอันตรายแก่กาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2199/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้กำลังทำร้ายร่างกายจนเกิดอันตราย แม้ไม่ถึงแก่ชีวิต
จำเลยใช้กำลังจับมือผู้ตายให้ลุกขึ้นโดยผู้ตายไม่สมัครใจ เมื่อผู้ตายบอกว่าจะไปสวมเสื้อก่อน จำเลยจึงปล่อย ถือได้ว่าเป็นการใช้กำลังทำร้าย เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่า: บาดแผลเล็กน้อย, อาวุธปืนเบา, ไม่ถึงแก่ชีวิต, มาตรา 81
จำเลยยิงผู้เสียหายในระยะห่าง 2 วา มีบาดแผลบริเวณใบหน้าและหัวไหล่ขวา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 มิลลิเมตร แผลที่ใบหน้ามี 12 แผล มีเลือดซึมเล็กน้อย และที่หัวไหล่มี 7 แผลบาดแผลแต่ละแห่งมีกระสุนเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 มิลลิเมตรฝังใต้ผิวหนัง แพทย์ลงความเห็นว่าอาจจะหายภายใน 10-14 วันผู้เสียหายรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 10 วันเศษแสดงว่า เป็นบาดแผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และไม่ได้ความว่าถ้าผู้เสียหายไม่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลทันท่วงทีอาจถึงชีวิตได้ ย่อมแสดงว่าอาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงไม่อาจทำให้ผู้เสียหายถูกยิงถึงตายได้ แม้จะถูกอวัยวะสำคัญของร่างกาย ดังนี้ กรณีต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81