คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ไม่ประมาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6095/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องอุทธรณ์จำเลยที่ 1 ย่อมลบล้างผลอุทธรณ์ และจำเลยที่ 2 ไม่ต้องรับผิดหากจำเลยที่ 1 ไม่ประมาท
ในชั้นอุทธรณ์โจทก์ทิ้งฟ้องอุทธรณ์สำหรับจำเลยที่1ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่1ไปแล้วย่อมลบล้างผลแห่งการยื่นอุทธรณ์คดีสำหรับจำเลยที่1จึงยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่1มิได้เป็นฝ่ายประมาทเลินเล่อจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ดังนี้เมื่อจำเลยที่1ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ก็ไม่มีหนี้จะให้จำเลยที่2ในฐานะผู้ใช้มอบหมายให้จำเลยที่2กระทำในหน้าที่ราชการมาร่วมรับผิดต่อโจทก์ได้อีกต่อไปปัญหาข้อนี้แม้จำเลยที่2จะมิได้ฎีกาแต่ก็เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาย่อมมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา142(5)ประกอบมาตรา246,247

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 932/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอนสิทธิของโจทก์จากการซื้อขายรถยนต์ที่มีสัญญาเช่าซื้อก่อนหน้า จำเลยต้องรับผิดแม้ไม่ประมาท
ช. ได้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์คันพิพาทมาจากบริษัท อ. และขณะเดียวกัน ช. ได้ทำสัญญาให้จำเลยเช่าซื้อต่อไป จำเลยผ่อนชำระค่าเช่าซื้อให้ ช. เสร็จสิ้นแล้ว แต่ ช. มิได้โอนทะเบียนรถคันพิพาทให้จำเลย ต่อมาจำเลยได้ขายรถคันพิพาทให้โจทก์ โดยโจทก์ชำระราคาแก่จำเลยครบถ้วนแล้ว และโจทก์ได้นำรถคันพิพาทไปจ้างซ่อมเสียค่าจ้างซ่อมไปอีก แต่เนื่องจาก ช. ไม่ชำระค่าเช่าซื้อให้แก่บริษัท อ. เกินกว่าสองงวด เป็นการผิดสัญญา พนักงานบริษัท อ. จึงได้ยึดรถคันพิพาทไป ดังนี้เมื่อจำเลยไม่สามารถโอนรถคันพิพาทให้แก่โจทก์ได้โดยมิใช่ความผิดของโจทก์ เพราะการที่รถคันพิพาทถูกยึดไปนั้นเป็นสิทธิที่ชอบด้วยกฎหมายของบริษัท อ.เจ้าของที่แท้จริง โจทก์ไม่มีอำนาจที่จะโต้แย้งได้ ถือได้ว่าโจทก์ถูกรอนสิทธิ จำเลยต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 475 แม้จำเลยจะมิได้ประมาทเลินเล่อก็ตาม จำเลยต้องคืนราคารถคันพิพาทแก่โจทก์ และการที่โจทก์ต้องซ่อมรถคันพิพาทเสียค่าซ่อมไปนั้น ก็ถือว่าเป็นค่าสินไหมทดแทนสำหรับความเสียหายที่โจทก์ได้รับเนื่องมาจากที่โจทก์ถูกรอนสิทธิ โจทก์มีสิทธิเรียกร้องเอาจากจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1529/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอนุญาตเลื่อนการสืบพยานเนื่องจากทนายโจทก์ติดว่าความในคดีอื่น ศาลพิจารณาจากความไม่ประมาทและไม่ได้ประวิงคดี
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนสืบพยานโจทก์ โดยอ้างเหตุว่าติดว่าความในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 2634/2509 ซึ่งศาลแพ่งส่งประเด็นไปสืบพยานโจทก์ที่ศาลจังหวัดสุรินทร์และนัดไว้ก่อนคดีนี้ จึงไม่สามารถมาว่าความในคดีนี้ได้ จำเลยรับสำเนาคำร้องแล้วไม่คัดค้านในเบื้องต้นจึงรับฟังได้ว่าทนายโจทก์ติดว่าความที่ศาลจังหวัดสุรินทร์ ทนายโจทก์หาได้หลีกเลี่ยงหรือไม่สนใจในคดีนี้ไม่ ทั้งเมื่อศาลกำหนดประเด็นหน้าที่นำสืบแล้ว ทนายโจทก์ยังได้มายื่นระบุพยานและยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งออกหมายเรียกพยานเอกสารมานำสืบในวันเวลาที่ศาลกำหนดไว้ มิได้ละเลยหรือไม่นำพาต่อคดีของโจทก์แต่อย่างใดและไม่ปรากฏว่าทนายโจทก์ดำเนินการในทำนองประวิงคดีให้ชักช้ากรณีจึงมีเหตุอันสมควรอนุญาตให้เลื่อนการสืบพยานโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเชื่อโดยสุจริตว่าปืนไม่มีกระสุน ทำให้ไม่ถึงแก่ความประมาท
จำเลยเป็นตำรวจ เชื่อโดยสุจริตว่าปืนที่มีบุคคลหนึ่งเก็บได้และมอบให้นั้นไม่มีกระสุนปืนบรรจุอยู่ จึงเอาปืนเหน็บไว้ที่เอว ต่อมาเนื่องจากการนั่งลุกของจำเลยเป็นเหตุให้กระสุนปืนที่จำเลยพกลั่นไปถูกผู้เสียหายดังนี้ จะเอาผิดแก่จำเลยฐานกระทำโดยประมาทยังไม่ได้