คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ไม่มีเจตนา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 27 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2073/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดเบี้ยปรับกรณีความเข้าใจผิดในการใช้เครดิตภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษี
ในเดือนภาษีมีนาคม 2542 โจทก์มียอดภาษีมูลค่าเพิ่มชำระไว้เกินเป็นเครดิตภาษีจำนวน 536,712.40 บาท แต่โจทก์มิได้ไปขอคืนเป็นเงินสดหรือนำไปเป็นเครดิตภาษีหักกับภาษีที่ต้องชำระในเดือนถัดไปคือเดือนภาษีเมษายน 2542 ทั้ง ๆ ที่โจทก์ใช้สิทธิเช่นนั้นได้ ทำให้โจทก์ไม่สามารถนำมาเครดิตภาษีหักกับภาษีในเดือนต่อ ๆ ไปได้ แต่โจทก์ได้นำมาเป็นเครดิตภาษีหักในเดือนภาษีพฤษภาคม 2542 ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดของโจทก์อย่างแท้จริง ทั้งจำเลยก็อุทธรณ์รับว่าคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ของจำเลยเห็นว่าโจทก์ไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีอากรและให้ความร่วมมือในการตรวจสอบด้วยดี กรณีจึงมีเหตุสมควรที่จะงดเบี้ยปรับให้แก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7298/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพูดแสดงความไม่พอใจ ไม่ถือเป็นการเลิกจ้าง
คำพูดของ พ.กรรมการผู้จัดการของบริษัทจำเลยที่พูดแก่โจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างว่า ทำอย่างนี้ออกไปดีกว่า ยังไม่เป็นการไล่โจทก์ออกจากงาน เพราะพูดด้วยความไม่พอใจที่ถูกลูกค้าติว่าโจทก์ซึ่งทำหน้าที่พ่อครัวทำอาหารเค็มจัดหวานจัดและโจทก์ได้พูดโต้ตอบกับ พ. ทำให้ พ.เกิดโทสะจริตจึงได้พูดกับโจทก์ดังกล่าวไปและไม่มีกิจจะลักษณะว่าจำเลยโดย พ.จะเลิกจ้างโจทก์ การที่โจทก์ออกจากงานไปยังถือไม่ได้ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยเรียกค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 46 และสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าตาม ป.พ.พ.มาตรา 582

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6925/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฉ้อภาษี: แม้ยื่นสำแดงไม่ถูกต้อง แต่หากไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษี ย่อมไม่มีความผิด
คำว่า"โดยเจตนาจะฉ้อค่าภาษีของรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"เป็นองค์ประกอบความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากรพ.ศ.2469มาตรา27ซึ่งบทบัญญัติมาตรา16แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร(ฉบับที่9)พ.ศ.2482หาได้ลบล้างองค์ประกอบความผิดดังกล่าวให้สิ้นไปไม่เพราะเพียงแต่มิให้คำนึงถึงเจตนาแห่งการกระทำส่วนความมุ่งหมายแห่งการกระทำหรือความประสงค์ต่อผลที่จะฉ้อค่าภาษียังคงเป็นองค์ประกอบความผิดตามมาตรา27อยู่ซึ่งเป็นเจตนาต่างหากจากเจตนากระทำการเมื่อจำเลยไม่มีเจตนาที่จะฉ้อค่าภาษีของรัฐบาลจำเลยจึงไม่มีความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1638/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดร่วม การไม่มีเจตนา การช่วยเหลือความผิด
ขณะเกิดเหตุ ท.และจำเลยกับพวกดื่มสุรากันมาจนมึนเมามิได้ร่วมสมคบกันมาก่อนที่จะทำร้ายผู้เสียหาย และการที่ ท.กับพวกรุมชกต่อยและ ท.ใช้อาวุธมีดแทงผู้เสียหายนี้ได้ทำขึ้นทันทีทันใดหลังจากที่ผู้เสียหายบอก ท.ว่าผู้เสียหายเรียนอยู่ที่ ว.ค. ส่วนการที่จำเลยจับแขนของนางสาว อ.ไว้ก็เพราะกลัวว่านางสาวอ.จะไปช่วยผู้เสียหาย อีกทั้งจำเลยก็มิได้จับแขนนางสาว อ.ไว้แน่น แต่กลับปล่อยให้นางสาว อ.สะบัดหลุดส่อลักษณะเป็นการให้โอกาสนางสาว อ.สะบัดหลุดเพื่อวิ่งหนีไปเพราะอาจได้รับอันตรายจากเหตุที่เกิดขึ้น เช่นนี้พฤติการณ์แห่งคดียังฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดกับ ท.และพวก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2498/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาทเกิดจากการข่มขู่และแจ้งอายัดธนาคาร การออกเช็คโดยไม่มีเจตนาให้ใช้เงิน ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยออกเช็คพิพาทเพราะถูกข่มขู่ วันรุ่งขึ้นจำเลยได้ไปแจ้งอายัดต่อธนาคารมิให้จ่ายเงินตามเช็ค เป็นการแสดงให้เห็นว่าจำเลยออกเช็คไปโดยไม่มีเจตนาที่จะให้นำเช็คไป เรียกเก็บเงิน ทั้งการที่จำเลยสั่งธนาคารมิให้จ่ายเงินตามเช็คก็มิใช่เป็นการทุจริต แม้ผู้เสียหายนำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินไม่ได้จำเลยก็ไม่มีความผิดตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3046/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็คโดยไม่มีเจตนาให้ใช้เงินได้จริงเป็นองค์ประกอบสำคัญของความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 มาตรา 3(1) หมายความว่า ขณะที่เขียนเช็คผู้ออกเช็คมีเจตนาที่จะไม่ให้ขึ้นเงินได้ตามเช็คตั้งแต่แรก ความผิดตามอนุมาตรานี้โจทก์ไม่จำเป็นต้องนำสืบถึงเงินในบัญชีของจำเลยในวันที่เช็คถึงกำหนด แต่จำเลยมีพฤติการณ์อย่างไรบ้างที่แสดงให้เห็นว่าออกเช็คโดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค แม้จะเป็นชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ก็ยังมีหน้าที่จะต้องนำสืบให้ปรากฏข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วย ข้อที่ว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเพียงประการเดียว ไม่ได้แสดงให้เห็นเจตนาของจำเลยว่าได้ออกเช็คโดยมีเจตนาไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2537/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมปล้นทรัพย์และการไม่มีเจตนาฆ่า การแบ่งความรับผิดชอบทางอาญา
แม้ในขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ไม่มีอาวุธปืนใด ๆ ติดตัวมาเลยและขณะจำเลยที่ 1 กับพวกใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายและกระชากเอาสร้อยคอทองคำไปจากผู้ตาย จำเลยที่ 2 จะยืนอยู่เฉย ๆ ก็ตาม แต่การที่จำเลยที่ 2 มายังที่เกิดเหตุพร้อมกับจำเลยที่ 1 กับพวก เมื่อจำเลยที่ 1 กับพวกใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายและกระชากสร้อยคอทองคำที่ผู้ตายสวมอยู่ไปได้แล้ว จำเลยที่ 2 วิ่งหนีไปพร้อมกับจำเลยที่ 1กับพวก ประกอบกับคดีฟังได้ตามคำให้การชั้นสอบสวนว่าขณะจำเลยที่ 1กับพวกปรึกษากันเรื่องจะปล้นทรัพย์ผู้ตาย จำเลยที่ 2 ก็นั่งฟังอยู่ด้วย ถือได้ว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมกระทำความผิดด้วยกันกับจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานปล้นทรัพย์ ขณะจำเลยที่ 1 กับพวกใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายนั้น จำเลยที่ 2ยืนเฉย ๆ มิได้พูดหรือกระทำการใด ๆ อันจะถือได้ว่าเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนจำเลยที่ 1 กับพวกในการฆ่าผู้ตายเลย จำเลยที่ 1กับพวกตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายไปตามลำพังและโดยฉับพลันในขณะนั้นเอง จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิดฐานร่วมกับจำเลยที่ 1กับพวก ฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6010/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาพยายามฆ่าต้องดูจากพฤติการณ์ การจ้องเล็งปืนโดยไม่มีการง้างนกหรือใส่ไกปืน ไม่ถือเป็นความพยายามฆ่า
จำเลยใช้ปืนลูกซองสั้นจ้องเล็งไปยังผู้เสียหายที่อยู่ห่างเพียง 7 - 8 เมตร หากจำเลยมีเจตนาจะยิงผู้เสียหายจริงแล้ว ก็คงจะใช้ปืนยิงได้โดยง่ายเพราะผู้เสียหายวิ่งหลบหนีอยู่บริเวณนั้น ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ง้างนกปืนขึ้นหรือนิ้วมือของจำเลยอยู่ในโกร่งไกปืนพร้อมที่จะยิงได้ และไม่ปรากฏว่า ผู้เสียหายมีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน พฤติการณ์จึงส่อแสดงให้เห็นว่าจำเลยชักปืนออกมาเพื่อขู่ผู้เสียหายที่ไปทวงค่าอาหารมากกว่าอย่างอื่น จำเลยไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5120/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า: การพิจารณาจากบาดแผลและพฤติการณ์ ผู้ต้องหาไม่ได้มีเจตนาฆ่า
จำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหายในขณะที่จำเลยเมาสุราโดยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน มีดที่ใช้แทงไม่มีด้ามและมีสนิมติดอยู่ด้วยจำเลยแทงผู้เสียหายครั้งแรกที่ใต้ราวนมซ้าย 1 ครั้ง บาดแผลขนาด 1.2+0.3 เซนติเมตรลึก 0.5 เซนติเมตรติดกระดูกซี่โครง ไม่ได้ความว่าแทงโดยแรงหรือไม่ผู้เสียหายล้มลงแล้วจำเลยยังแทงผู้เสียหายที่โคนขาอีก 2ครั้ง แผลลึก 3 และ 2.5 เซนติเมตรตามลำดับ สภาพบาดแผลมีขนาดใกล้เคียงกับบาดแผลที่ใต้ราวนมซ้ายแพทย์มีความเห็นว่าใช้เวลารักษาประมาณ 10 วันหาย พิจารณาถึงมีดซึ่งไม่เหมาะที่จะใช้แทงให้ตายและการที่จำเลยมีโอกาสเลือกแทงในส่วนสำคัญได้หลังจากผู้เสียหายล้มลงแล้วแต่กลับแทงไปที่บริเวณโคนขาซึ่งไม่เกิดอันตรายร้ายแรง ทำให้ฟังไม่ถนัดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 688/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีคม ไม่ถึงแก่ชีวิต ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่มีเจตนาฆ่า
จำเลยใช้ขวดสุราตีหน้าผากผู้เสียหาย 1 ครั้ง มีบาดแผลที่หน้าผากด้านซ้าย ด้านขวาและเหนือหูขวา ยาว 3, 2.5, และ 3 เซนติเมตรตามลำดับ และใช้มีดแทงผู้เสียหายถูกแขนซ้ายและอกด้านซ้ายมีบาดแผลยาว 2 และ 1 เซนติเมตรตามลำดับ เฉพาะแผลที่อกด้านซ้ายลึกประมาณ 1 เซนติเมตร ถูกกล้ามเนื้อไม่ทะลุเข้าไปถึงอวัยวะภายในและอาวุธที่ใช้มิได้ถูกกระดูกเมื่อเกิดเหตุแล้วมีผู้อื่นเข้ามาห้าม จำเลยก็เชื่อฟัง เหตุทำร้ายเพราะผู้เสียหายต่อว่าจำเลยว่าเป็นสายลับให้ตำรวจ ตามลักษณะบาดแผลและตามพฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าว ยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
of 3