คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ไม่รวมพิจารณา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1470/2542 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากความเท็จในการฟ้องเดิม: ไม่รวมพิจารณา
จำเลยที่ 2 ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ทั้งสองอ้างเหตุว่าจำเลยที่ 2 ไม่มีนิติสัมพันธ์ใด ๆ กับโจทก์ทั้งสอง จำเลยที่ 2 ไม่ใช่ผู้ขนส่งสินค้ารายพิพาทร่วมกับจำเลยที่ 1 โจทก์ทั้งสองใช้สิทธิโดยไม่สุจริตนำความเท็จมาฟ้องจำเลยที่ 2 ทำให้จำเลยที่ 2 ได้รับความเสียหาย ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ค่าใช้จ่ายในด้านการตลาด ค่าจ้างทนายความ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในศาลอีก จึงเป็นกรณีที่จำเลยที่ 2 กล่าวอ้างใช้สิทธิทางศาลอันเนื่องมาจากการที่โจทก์ทั้งสองกระทำละเมิดต่อจำเลยที่ 2 เพราะโจทก์ทั้งสองใช้สิทธิโดยไม่สุจริตเอาความเท็จมาฟ้องต่อศาล ฟ้องแย้งของจำเลยที่ 2 จึงเป็นฟ้องแย้งที่อาศัยเหตุแห่งการฟ้องของโจทก์ทั้งสองมาเป็นข้อกล่าวอ้างซึ่งเป็นคนละเรื่องกับฟ้องเดิมฟ้องแย้งของจำเลยที่ 2 จึงเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิมพอที่จะรวมพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้ ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 177 วรรคสาม ประกอบพ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539 มาตรา 26

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งมีเงื่อนไข ไม่เกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม จึงไม่รวมพิจารณา
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกพิพาท จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ให้จำเลยเช่าต่ออีก 3 ปี โจทก์ฟ้องขับไล่มิได้ และฟ้องแย้งว่าถ้าจำเลยต้องออกจากตึกเช่า ก็ให้โจทก์คืนเงินกินเปล่าและใช้ค่าขนย้ายกับเงินกินเปล่าที่จะไปอยู่ใหม่ ดังนี้ ถือว่าฟ้องแย้งของจำเลยมีเงื่อนไข คือ ขอให้บับคับตามฟ้องแย้งต่อเมื่อจำเลยถูกศาลพิพากษาขับไล่ จึงไม่ถือว่าเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิมพอที่จะรวมพิจารณา และชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้ ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรค 3 และมาตรา 179 วรรคสุดท้าย.
(อ้างฎีกาที่ 956/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2550

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งเรื่องค่าชดเชยจาก พ.ร.ก.บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ไม่เกี่ยวข้องกับมูลหนี้เดิม จึงไม่รวมพิจารณา
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีและสัญญากู้ยืมเงินกับโจทก์พร้อมกับทำสัญญาจำนองที่ดินเป็นประกันการชำระหนี้ ขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้ดังกล่าวกับขอให้บังคับจำนอง ส่วนฟ้องแย้งของจำเลยอ้างว่า ภาระหนี้ของจำเลยที่มีต่อโจทก์ตามฟ้องเป็นสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ แต่โจทก์ไม่โอนให้แก่บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยภายในกำหนดเวลาที่บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยบริหารสินทรัพย์ไทยกำหนด โจทก์ต้องรับผิดจ่ายค่าชดเชยตาม พ.ร.ก.บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย พ.ศ.2544 ขอให้บังคับโจทก์นำเงินค่าชดเชยมาหักชำระหนี้ของจำเลยดังกล่าว แม้ข้ออ้างของจำเลยตามฟ้องแย้งจะเกี่ยวกับหนี้ที่จำเลยมีต่อโจทก์ตามฟ้อง แต่การกระทำของโจทก์ดังกล่าวจะเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายและต้องรับผิดจ่ายค่าชดเชยหรือไม่นั้นเป็นคนละส่วนกับมูลหนี้ที่จำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์ตามฟ้อง ฟ้องแย้งของจำเลยจึงไม่เกี่ยวกับฟ้องคดีเดิมที่จะรวมพิจารณาพิพากษาไปในคดีเดียวกัน ชอบที่จะนำไปฟ้องเป็นต่างหาก