พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5383/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเข้าเป็นคู่ความตามมาตรา 57(1) เมื่อคดีสิ้นสุดแล้ว ศาลชอบที่จะสั่งไม่รับคำร้อง
ตามคำร้องเป็นเรื่องผู้ร้องร่วมทั้งสองประสงค์จะเข้ามาเป็นคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(1) ซึ่งกฎหมายดังกล่าวบัญญัติให้บุคคลภายนอกร้องขอเข้าเป็นคู่ความได้โดยยื่นคำร้องขอต่อศาลที่คดีนั้นอยู่ในระหว่างพิจารณา เมื่อปรากฏว่าในวันที่ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องขอเข้ามาเป็นคู่ความนั้นศาลชั้นต้นได้สั่งยกคำร้องของผู้ร้องไปแล้ว จึงไม่มีคดีของผู้ร้องที่ผู้ร้องร่วมทั้งสองจะเข้ามาเป็นคู่ความได้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นในขณะที่ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องขอ ดังนั้นศาลจึงชอบที่จะสั่งไม่รับคำร้องขอของผู้ร้องร่วมทั้งสองได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1355/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร้องสอดคดีหลังพิจารณาคืบหน้าแล้ว ศาลมีอำนาจพิจารณาไม่รับได้เพื่อป้องกันความยุ่งยาก
ผู้ร้องได้ทราบถึงการที่โจทก์ฟ้องคดีมาตั้งแต่แรก แต่เพิ่งร้องสอดเข้ามาหลังจากโจทก์ฟ้องคดีแล้ว 5 ปีเศษ จนได้มีการสืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นไปแล้ว ทั้งได้สืบพยานจำเลยไปแล้วรวม 29 นัด จวนจะเสร็จสิ้นพยานจำเลยอยู่แล้ว จึงไม่สมควรอนุญาตให้ผู้ร้องร้องสอดเข้ามาในคดีนี้เพราะจะทำให้การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลเพิ่มความยุ่งยากขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายเวลายื่นฎีกาและการอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับคำร้อง
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องโจทก์ซึ่งขอขยายเวลายื่นฎีกา ไม่ใช่คำสั่งไม่รับฎีกา โจทก์จะยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่อศาลฎีกา ตลอดจนยื่นฎีกาต่อศาลฎีกาหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1509/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่รับคำร้องเรียกบุคคลภายนอกเข้าเป็นจำเลยร่วมในคดีฟ้องแย้งและการต้องห้ามอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกฟ้องแย้งของจำเลยที่ 1 ที่บังคับเอากับ ป. เนื่องจากเป็นฟ้องแย้งที่บังคับเอากับบุคคลภายนอกไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม กับมีคำสั่งยกคำร้องที่จำเลยที่ 1 ขอหมายเรียก ป. เข้าเป็นจำเลยฟ้องแย้งร่วมกับโจทก์ จำเลยที่ 1 คงอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องขอหมายเรียก ป. โดยมิได้อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกฟ้องแย้งในส่วนที่บังคับเอากับ ป. แต่อย่างใด คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงถึงที่สุดไปแล้ว จำเลยที่ 1 จะยกขึ้นฎีกาหาได้ไม่ ต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
คำร้องของจำเลยที่ 1 ที่ขอให้เรียก ป. เข้าเป็นจำเลยร่วมกับโจทก์ในส่วนฟ้องแย้งนั้นเป็นคำร้องที่ยื่นเพื่อขอให้เรียกบุคคลภายนอกเข้ามาในคดี มิใช่เพื่อตั้งประเด็นระหว่างคู่ความจึงไม่ใช่คำคู่ความ คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องดังกล่าวจึงมิใช่คำสั่งไม่รับคำคู่ความแต่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในระหว่างพิจารณาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 226 (1) จำเลยที่ 1 จึงยังไม่มีสิทธิอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ชอบแล้ว
คำร้องของจำเลยที่ 1 ที่ขอให้เรียก ป. เข้าเป็นจำเลยร่วมกับโจทก์ในส่วนฟ้องแย้งนั้นเป็นคำร้องที่ยื่นเพื่อขอให้เรียกบุคคลภายนอกเข้ามาในคดี มิใช่เพื่อตั้งประเด็นระหว่างคู่ความจึงไม่ใช่คำคู่ความ คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องดังกล่าวจึงมิใช่คำสั่งไม่รับคำคู่ความแต่เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในระหว่างพิจารณาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 226 (1) จำเลยที่ 1 จึงยังไม่มีสิทธิอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1044/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ เป็นการไม่ชอบ แต่เมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าพ้นกำหนดและไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข จึงไม่รับคำร้อง
จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ต่อศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นมีหน้าที่ส่งคำร้องนั้นไปยังศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 ไม่มีหน้าที่ตรวจสั่งไม่รับเหมือนอย่างชั้นรับหรือไม่รับอุทธรณ์ตามความในมาตรา 232 การที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์จึงไม่ชอบ
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องขอให้เพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบกรณีศาลชั้นต้นไม่รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย และศาลชั้นต้นได้ส่งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์และสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยว่า จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์พ้นกำหนด 15 วัน ทั้งมิได้นำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลตามมาตรา 234 จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ยกคำร้อง จึงมีผลเป็นการยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตามมาตรา 236 วรรคหนึ่ง
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกคำร้องขอให้เพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบกรณีศาลชั้นต้นไม่รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย และศาลชั้นต้นได้ส่งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์และสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยว่า จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์พ้นกำหนด 15 วัน ทั้งมิได้นำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลตามมาตรา 234 จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ยกคำร้อง จึงมีผลเป็นการยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตามมาตรา 236 วรรคหนึ่ง