พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2023/2541
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษและบวกโทษจำคุกที่รอการลงโทษในคดีพนัน กรณีพ้นโทษไม่ครบ 3 ปี และเหตุไม่สมควรรอการลงโทษ
ศาลพิพากษาลงโทษปรับจำเลยที่ 1 ตามพระราชบัญญัติการพนันฯ ในคดีอื่นมาแล้ว 3 คดี ซึ่งจำเลยที่ 1 ได้ชำระค่าปรับตามที่ศาลลงโทษทุกคดีโดยมิได้อุทธรณ์ฎีกาคดีถึงที่สุดแล้ว ดังนี้ถือว่าจำเลยที่ 1 ได้พ้นโทษในคดีที่ศาลได้ลงโทษปรับมาแล้ว แล้วมา กระทำผิดคดีนี้อีกซึ่งยัง ไม่พ้นกำหนด 3 ปี จึงเพิ่มโทษจำเลยที่ 1 ตามพระราชบัญญัติ การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 14 ทวิ ได้ เมื่อขณะศาลชั้นต้นพิพากษาคดีนี้ คดีที่ศาลรอการลงโทษจำเลยไว้ก่อนคดีนี้ยังไม่ถึงที่สุดโดยอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา ศาลชั้นต้นจึงยังไม่อาจนำโทษที่รอไว้ในคดีดังกล่าวมาบวกเข้ากับโทษในคดีนี้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 58 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6694/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร: การกระทำอันไม่สมควรทางเพศและการล่อลวง
จำเลยกับ พ. ได้พา ม. ผู้เยาว์อายุ 16 ปีเศษ และ ว. เพื่อนผู้เยาว์ไปที่บ้านส. ผู้เยาว์ขอให้จำเลยไปส่งผู้เยาว์ไปที่บ้าน ว. จำเลยไม่ยอมแต่กลับพาผู้เยาว์ไปที่บ้านพี่สาวของ พ. และให้ผู้เยาว์นอนค้างคืนที่บ้านพี่สาว พ. โดยจำเลยให้ผู้เยาว์นอนเตียงเดียวกับจำเลยตลอดทั้งคืน โดยจำเลยต้องการนอนกับผู้เยาว์ตามลำพังการกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำอันไม่สมควรในทางเพศและเป็นการพรากผู้เยาว์ไปจากผู้ปกครองและดูแลเพื่อการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 319 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3953/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กระทำอนาจารและหน่วงเหนี่ยวกักขัง: การกระทำที่ไม่สมควรทางเพศและการลิดรอนเสรีภาพ
จำเลยกอดคอผู้เสียหายและจับแขนผู้เสียหายลากเพื่อจะพาเข้าห้องพักในโรงแรม เป็นการกระทำที่ไม่สมควรในทางเพศ มีความผิดฐานกระทำอนาจาร โดยใช้กำลังประทุษร้ายต่อผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 ผู้เสียหายนั่งรถยนต์ไปกับจำเลย ผู้เสียหายขอลงจากรถตั้งแต่ตอนถึงตลาดแล้ว แต่จำเลยบ่ายเบี่ยงเป็นว่าจะไปธุระกับเพื่อนก่อน เมื่อถึงหน้าโรงแรม ผู้เสียหายรู้ตัวว่า จำเลยคิดมิดีมิร้ายจึงพูดขอลงและจะเปิดประตูรถ แต่จำเลย ไม่ยอมให้ลงโดยล็อกประตูรถไว้ ดังนี้จำเลยมีเจตนาหน่วงเหนี่ยวผู้เสียหายไม่ให้ลงจากรถจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 310 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 811-818/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างที่ไม่สมควร นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างกลับเข้าทำงานเดิม
โจทก์กับพวกทำงานกับจำเลยมานานในหน้าที่ฝ่ายช่างและฝ่ายผลิตบางคนก็ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นหัวหน้างานมีเงินเพิ่มประจำตำแหน่งการที่จำเลยมีคำสั่งให้โจทก์ทุกคนไปทำงานแผนกทำความสะอาดถือว่าเป็นการประพฤติผิดสภาพการจ้าง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2095/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้จัดการมรดก: ผู้ไม่มีส่วนได้เสียและพฤติการณ์ไม่สมควรเป็นผู้จัดการ
โจทก์อยู่กินกับผู้ตายภายหลังประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 ใช้บังคับโดยมิได้จดทะเบียนสมรส โจทก์จึงไม่เป็นภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมายไม่เป็นทายาทของผู้ตาย ทั้งระหว่างอยู่กินด้วยกันไม่มีทรัพย์สินใหม่เกิดขึ้น ซึ่งมีความหมายว่าไม่มีทรัพย์สินที่โจทก์กับผู้ตายร่วมกันทำมาหาได้โจทก์จึงเป็นผู้ไม่มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกอีกไม่มีสิทธิร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดก
จำเลยเป็นพี่ผู้ตาย ดื่มสุราจนจิตฟั่นเฟือน มีผู้สนับสนุนให้จำเลยเป็นผู้จัดการมรดก โดยจัดหาทนายความให้ เพราะจำเลยไม่ค่อยมีเงินและจะจัดหาคนมาสร้างตึกแถวในที่ดินมรดกเพื่อหาประโยชน์ต่อไปตามพฤติการณ์ดังกล่าวไม่สมควรตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดก
จำเลยเป็นพี่ผู้ตาย ดื่มสุราจนจิตฟั่นเฟือน มีผู้สนับสนุนให้จำเลยเป็นผู้จัดการมรดก โดยจัดหาทนายความให้ เพราะจำเลยไม่ค่อยมีเงินและจะจัดหาคนมาสร้างตึกแถวในที่ดินมรดกเพื่อหาประโยชน์ต่อไปตามพฤติการณ์ดังกล่าวไม่สมควรตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 106/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวิพากษ์วิจารณ์ผู้อำนวยการโรงพยาบาลด้วยถ้อยคำที่ไม่สมควร ไม่ถึงขั้นดูหมิ่นใส่ความ
จำเลยกล่าวถ้อยคำว่า 'ผู้อำนวยการคนนี้ใครว่าดีเดี๋ยวนี้ดีแตกเสียแล้ว ไปติดต่อเรื่องคนไข้ก็มาไล่โรงพยาบาลเป็นของรัฐบาล ไม่ใช่ของผู้อำนวยการตึกบุญเอี่ยมเป็นของชาวเมืองเพชรสร้าง บ้านที่ผู้อำนวยการอยู่ก็ต้องอาศัยเขาอยู่ เป็นหมอควรจะใจเย็นแต่นี่ใจร้อนยังกับไฟ ใช้ไม่ได้ ถึงเจ็บก็ไม่มารักษาที่นี่ จะเอาเรื่องทุกอย่างไปลงสาสน์เพชร'จำเลยกล่าวถ้อยคำเหล่านั้นด้วยความน้อยใจและมีอารมณ์โกรธเนื่องจาก ถูกนายแพทย์ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพูดเป็นทำนองไล่อันเป็นการไม่สมควร เพราะเป็นการขาดคารวะ แต่ก็ยังไม่ถึงกับเป็นการดูหมิ่นหรือใส่ความ ตามมาตรา 136และ 326 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 48/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอแก้ฟ้องคดีอาญา: เหตุผลที่ไม่สมควรและการไม่แสดงเหตุผลอันควร
คำร้องขอแก้ฟ้องของโจทกล่าวข้อความลอย ๆ ว่าวันตามฟ้องโจทยังคลาดเคลื่อนอยู่ ขอแก้เปนวันอื่น เช่นนี้ ถือว่าโจทมิได้สแดงเหตุอันควนแก้ไห้สาลเห็นด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1074/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอดถอนผู้จัดการมรดก กรณีปฏิบัติหน้าที่ไม่สมควร แม้ไม่มีทุจริต
ผู้จัดการมฤดกจ้างผู้อื่นให้เป็นผู้ช่วยเหลือในการจัดการมฤดกโดยคิดค่าจ้างให้เป็นจำนวนมากเกินสมควร และปกปิดมิให้ทายาทอื่นทราบถึงแม้ไม่ปรากฎความทุจจริตในการนี้ก็ถือได้ว่าผู้จัดการมฤดกปฏิบัติหน้าที่ไม่สมควรและอาจถอดถอนเสียได้โจทก์ฟ้องขอให้ถอดถอนผู้จัดการมฤดกเดิมและตั้งตนแทนสืบไป เมื่อศาลพิพากษาให้ถอดถอนผู้จัดการมฤดกเดิมแล้ว ต้องไต่สวนคำร้องของโจทก์ที่ขอให้ตั้งตนเป็นผู้จัดการมฤดกแทนก่อนตามระเบียบและในระวางไต่สวนคำร้องนี้ศาลมีอำนาจแต่งตั้งผู้จัดการมฤดกเดิมดำเนินการจัดการในกรณีที่จำเป็นไปก่อนชั่วคราวได้ ค่าธรรมเนียม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6025/2561
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินค่าเคลียร์ตำรวจหักจากค่าจ้างได้หรือไม่? ศาลเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการบางส่วน เหตุเงินดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่สมควร
แม้ผู้คัดค้านไม่ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำพิพากษาบังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการก็ตาม แต่ผู้คัดค้านได้ยื่นคำคัดค้านขอให้ศาลมีคำพิพากษายกคำร้องขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการของผู้ร้องและมีคำขอให้ศาลมีคำพิพากษาบังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการมาในคำคัดค้านโดยชำระค่าขึ้นศาลจำนวน 50,000 บาท ต่อศาลชั้นต้นในวันที่ผู้คัดค้านยื่นคำค้านมา ชอบด้วยตาราง 1 ค่าธรรมเนียมศาล (ค่าขึ้นศาล) ท้าย ป.วิ.พ. ข้อ (1) (ข) ถือได้ว่าผู้คัดค้านซึ่งเป็นคู่พิพาทที่ประสงค์จะให้มีการบังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลบังคับตามคำชี้ขาดนั้นชอบด้วยบทบัญญัติมาตรา 42 แห่ง พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 แล้ว ศาลชั้นต้นมีอำนาจพิพากษาให้บังคับคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการได้
เงินค่าเคลียร์แรงงานต่างด้าวที่ผู้คัดค้านจ่ายให้แก่เจ้าพนักงานตำรวจเพื่อมิให้ดำเนินคดีอาญาแก่แรงงานต่างด้าวในข้อหาทำงานในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายมีลักษณะเป็นเงินสินบนที่ให้แก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้ไม่กระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ ซึ่งเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 144 แม้จะรับฟังข้อเท็จจริงตามที่คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยว่า ผู้ร้องตกลงให้ผู้คัดค้านหักเงินค่าเคลียร์แรงงานต่างด้าวออกจากเงินค่าจ้างตามสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างอาคารที่ผู้คัดค้านว่าจ้างผู้ร้องให้ทำการก่อสร้างอาคารในคดีนี้ได้ ข้อตกลงที่ให้หักเงินค่าเคลียร์แรงงานต่างด้าวออกจากเงินค่าจ้างดังกล่าวเป็นข้อตกลงที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย ข้อตกลงนั้นจึงตกเป็นโมฆะไม่อาจบังคับกันได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 150 การที่คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยว่า ผู้คัดค้านมีสิทธินำเงินค่าเคลียร์แรงงานต่างด้าวที่ผู้คัดค้านจ่ายให้แก่เจ้าพนักงานตำรวจมาหักจากเงินค่าจ้างที่จะต้องจ่ายเป็นค่าจ้างแก่ผู้ร้องนั้น เป็นข้อวินิจฉัยที่ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา 150 แห่ง ป.พ.พ. การยอมรับหรือการบังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการในส่วนนี้ย่อมเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ชอบที่ศาลจะพิพากษาให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการในส่วนดังกล่าวได้ ตาม พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 40 วรรคสาม (2) (ข)
เงินค่าเคลียร์แรงงานต่างด้าวที่ผู้คัดค้านจ่ายให้แก่เจ้าพนักงานตำรวจเพื่อมิให้ดำเนินคดีอาญาแก่แรงงานต่างด้าวในข้อหาทำงานในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายมีลักษณะเป็นเงินสินบนที่ให้แก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้ไม่กระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ ซึ่งเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 144 แม้จะรับฟังข้อเท็จจริงตามที่คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยว่า ผู้ร้องตกลงให้ผู้คัดค้านหักเงินค่าเคลียร์แรงงานต่างด้าวออกจากเงินค่าจ้างตามสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างอาคารที่ผู้คัดค้านว่าจ้างผู้ร้องให้ทำการก่อสร้างอาคารในคดีนี้ได้ ข้อตกลงที่ให้หักเงินค่าเคลียร์แรงงานต่างด้าวออกจากเงินค่าจ้างดังกล่าวเป็นข้อตกลงที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย ข้อตกลงนั้นจึงตกเป็นโมฆะไม่อาจบังคับกันได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 150 การที่คณะอนุญาโตตุลาการวินิจฉัยว่า ผู้คัดค้านมีสิทธินำเงินค่าเคลียร์แรงงานต่างด้าวที่ผู้คัดค้านจ่ายให้แก่เจ้าพนักงานตำรวจมาหักจากเงินค่าจ้างที่จะต้องจ่ายเป็นค่าจ้างแก่ผู้ร้องนั้น เป็นข้อวินิจฉัยที่ขัดต่อบทบัญญัติมาตรา 150 แห่ง ป.พ.พ. การยอมรับหรือการบังคับตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการในส่วนนี้ย่อมเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ชอบที่ศาลจะพิพากษาให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการในส่วนดังกล่าวได้ ตาม พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 40 วรรคสาม (2) (ข)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 361/2564
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลักทรัพย์และปลอมแปลงเอกสารเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน และไม่สมควรรอการลงโทษ
ภายหลังลักรถบรรทุกของโจทก์ร่วมทั้งสามสำเร็จแล้ว พฤติการณ์ของจำเลยกับพวกที่ร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมเพื่อโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกบางคันมาเป็นชื่อจำเลย บางคันมาเป็นชื่อบริษัทที่จำเลยเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ และบางคันเป็นชื่อบุคคลภายนอก เป็นการกระทำเพื่อมุ่งใช้สอยหรือหาประโยชน์จากรถบรรทุกแต่ละคันที่ลักมา มิใช่เป็นการกระทำที่มีเจตนามุ่งหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งรถบรรทุกแต่ละคัน ความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์กับความผิดฐานร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน