คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ไม้แปรรูป

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 191 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7305/2548 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีไม้แปรรูป/ยังมิได้แปรรูปครอบครอง ศาลฎีกาเห็นว่าเจตนาต่างกันเป็นความผิดหลายกรรม
ที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นกรรมเดียวกันนั้นเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบความเรียบร้อย จำเลยทั้งสองจึงยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นฎีกาได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
ลักษณะของความผิดในข้อหาการมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและการมีไม้อันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อาศัยเจตนาในการกระทำความผิดแตกต่างแยกจากกันได้ แม้ไม้หวงห้ามที่จำเลยทั้งสองร่วมกันมีไว้ในครอบครองจะตัดมาจากต้นเดียวกันและเป็นจำนวนเดียวกันก็ตาม การกระทำความผิดของจำเลยทั้งสองก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7305/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีไม้แปรรูปและไม้ยังไม่แปรรูปไว้ในครอบครองถือเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน แม้ไม้จะมาจากต้นเดียวกัน
จำเลยฎีกาข้อกฎหมายว่า จำเลยตัดไม้ยางแล้วทอนเป็นท่อน ไม้ยางที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเป็นไม้ที่ได้มาจากการที่จำเลยทำไม้หลังจากนั้นจำเลยแปรรูปไม้ดังกล่าวโดยเลื่อยตัดให้เป็นท่อนซึ่งเป็นการกระทำแก่ไม้ยางต้น จึงน่าจะเป็นฟ้องซ้ำในส่วนการครอบครองไม้ที่แปรรูป ทำนองว่าการกระทำของจำเลยในความผิดฐานมีไม้ยางแปรรูปไว้ในครอบครองกับความผิดฐานมีไม้ยางอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง เป็นกรรมเดียวกันนั้น แม้จะมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาในชั้นอุทธรณ์ว่าเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทแต่เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย จำเลยจึงยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
ลักษณะของความผิดในข้อหามีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไม้อันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อาศัยเจตนาในการกระทำความผิดแตกต่างแยกจากกันได้ แม้ไม้หวงห้ามที่จำเลยมีไว้ในครอบครองจะตัดมาจากต้นเดียวกันและเป็นจำนวนเดียวกันก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7502/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีไม้แปรรูปและเคลื่อนย้ายไม้จากสิ่งปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลลดโทษและรอการลงโทษ
ความผิดฐานร่วมกันมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ฯ มาตรา 48 วรรคหนึ่ง, 73 อาศัยเจตนาในการกระทำความผิดต่างจากความผิดฐานร่วมกันนำไม้สักที่เคยอยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเคยอยู่ในสภาพเป็นเครื่องใช้ และพ้นจากสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้มาแล้วกว่าห้าปี เคลื่อนย้ายออกนอกเขตจังหวัดซึ่งเป็นที่ตั้งสิ่งปลูกสร้างหรือเป็นที่ประกอบเครื่องใช้นั้นโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ฯ มาตรา 39 ตรี วรรคหนึ่ง,71 ทวิ จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 136/2546

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานสนับสนุนการตั้งโรงงานแปรรูปไม้เถื่อน และการมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครอง โดยมีเจตนา
ความผิดฐานตั้งโรงงานแปรรูปไม่โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลาตราบเท่าที่โรงงานแปรรูปไม้นั้นยังตั้งอยู่ และผู้ตั้งโรงงานยังไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ การช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ผู้ตั้งโรงงานในช่วงเวลาดังกล่าวจึงเป็นการสนับสนุนการกระทำความผิด เมื่อจำเลยไปช่วยก่อสร้างและรับจ้างทำงานในโรงงานดังกล่าวแสดงว่าจำเลยทำงานมานานประกอบกับพฤติการณ์ที่จำเลยหลบหนีจึงฟังได้ว่าจำเลยรู้ว่าโรงงานนั้นตั้งขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย การที่จำเลยทำงานเป็นลูกจ้างในโรงงานโดยทำไม้วงกบประตูให้แก่ ค. นายจ้างที่จะนำไปสร้างบ้านย่อมเป็นการช่วยเหลือ ค. อันเป็นการสนับสนุนการกระทำความผิดของ ค. แล้วและเมื่อจำเลยเป็นผู้แปรรูปไม้สักของกลาง จำเลยย่อมเป็นผู้ดูแลรักษาไม้นั้นเพื่อมอบให้แก่ ค. จำเลยจึงมีความผิดฐานมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองอีกกระทงหนึ่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7921/2544

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท: การครอบครองไม้แปรรูปต่างชนิดกัน แต่เป็นไม้หวงห้ามประเภทเดียวกัน
แม้โจทก์บรรยายแยกฟ้องว่าจำเลยครอบครองไม้สักแปรรูปจำนวนหนึ่งออกต่างหากจากการครอบครองไม้ชิงชันแปรรูปและไม้มะค่าโมงแปรรูปอีกจำนวนหนึ่งเป็นคนละข้อก็ตาม แต่ไม้ดังกล่าวก็เป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติกำหนดไม้หวงห้ามฯ ด้วยกัน ทั้งตามคำบรรยายฟ้องที่ระบุการกระทำผิดของจำเลยก็เป็นกรณีที่จำเลยครอบครองไม้ทั้งสามชนิดนั้นในคราวเดียวกัน เป็นแต่การครอบครองไม้แปรรูปทั้งสามชนิดนั้นกฎหมายกำหนดอัตราโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ มาตรา 73 แตกต่างกันเท่านั้น การกระทำของจำเลยตามฟ้องจึงเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท มิใช่เป็นการกระทำหลายกรรมต่างกันเป็นเหตุในลักษณะคดีอันเกี่ยวกับการปรับบทลงโทษจำเลย แม้จำเลยอื่นจะมิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษาให้มีผลถึงได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213 และ 22

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5940/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้สักแปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต: การพิสูจน์การครอบครองและโทษที่เหมาะสม
จำเลยที่1เป็นลูกจ้างขับรถยนต์บรรทุกสิบล้อได้ขับรถยนต์บรรทุกสิบล้อรับจ้างบรรทุกไม้สักแปรรูปของกลางจากต่างจังหวัดมุ่งหน้าจะเข้ากรุงเทพมหานครโดยมีบุคคลที่จำเลยที่1อ้างว่าเป็นเจ้าของไม้ขับรถยนต์เก๋งนำทางแต่จำเลยที่1ถูกจับกุมระหว่างทางพฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าจำเลยที่1เป็นผู้ครอบครองไม้สักแปรรูปของกลาง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4373/2536 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้สักแปรรูปโดยมีหลักฐานที่มาชอบด้วยกฎหมาย และข้อยกเว้นการขออนุญาต
จำเลยมีไม้สักแปรรูปของกลางทั้งหมดไว้ในครอบครองไม้สักแปรรูปของกลางเป็นส่วนหนึ่งของไม้ในกิจการโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักรของ ป. มาก่อน โจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นว่าไม้สักในกิจการแปรรูปไม้ของ ป. เป็นไม้ที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย กลับปรากฎจากคำเบิกความของส. และ อ. พยานโจทก์ว่า ส. และ อ. ต่างเคยไปที่โรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักรของ ป. แต่ไม่เคยพบการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้มาก่อนคำพยานจำเลยที่ว่า ป.ซื้อไม้สักที่ถูกต้องตามกฎหมายจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้มาใช้ในกิจการโรงงานแปรรูปไม้โดยเครื่องจักรของ ป. ย่อมเป็นไม้ที่ชอบด้วย พ.ร.บ.ป่าไม้ กรณีถือได้ว่า จำเลยมีไม้สักแปรรูปของกลางไว้ในครอบครองโดยมีหลักฐานแสดงว่าได้ไม้นั้นมาโดยชอบด้วย พ.ร.บ.ป่าไม้แล้วเมื่อจำเลยมีไม้สักแปรรูปของกลางไว้ในครอบครองโดยมีหลักฐานแสดงว่าได้ไม้นั้นมาโดยชอบด้วย พ.ร.บ.ป่าไม้แล้วเมื่อจำเลยมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยมใช่เพื่อการค้า จึงไม่ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เพราะเข้าข้อยกเว้นตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 50(3) จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4373/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้แปรรูปโดยมีหลักฐานการได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย และข้อยกเว้นไม่ต้องขออนุญาตแปรรูป
จำเลยมีไม้สักแปรรูปของกลางทั้งหมดไว้ในครอบครองไม้สักแปรรูปของกลางเป็นส่วนหนึ่งของไม้ ในกิจการโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักรของ ป. มาก่อน โจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นว่าไม้สักในกิจการแปรรูปไม้ ของ ป. เป็นไม้ที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย กลับปรากฏจากคำเบิกความของ ส.และอ.พยานโจทก์ว่าส.และอ. ต่างเคยไปที่โรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักรของ ป. แต่ไม่เคยพบการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้มาก่อนค่าพยานจำเลยที่ว่า ป.ซื้อไม้สักที่ถูกต้องตามกฎหมายจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้มาใช้ในกิจการโรงงานแปรรูปไม้โดยเครื่องจักรของ ป.ย่อมเป็นไม้ที่ชอบด้วยพระราชบัญญัติป่าไม้ กรณีถือได้ว่าจำเลยมีไม้สักแปรรูปของกลางไว้ในครอบครองโดยมีหลักฐานแสดงว่าได้ไม้นั้นมาโดยชอบด้วยพระราชบัญญัติป่าไม้แล้วเมื่อจำเลยมีไม้สักแปรรูปของกลางไว้ในครอบครองโดยมีหลักฐาน แสดงว่าได้ไม้นั้นมาโดยชอบด้วยพระราชบัญญัติป่าไม้แล้ว เมื่อจำเลยมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยมิใช่เพื่อการค้า จึงไม่ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เพราะเข้า ข้อยกเว้นตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 40(3) จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4373/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีไม้แปรรูปโดยมิใช่เพื่อการค้า และมีหลักฐานแสดงที่มาที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ต้องขออนุญาตตาม พ.ร.บ.ป่าไม้
จำเลยมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยมีหลักฐานแสดงว่าได้ไม้มาโดยชอบด้วยพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ เมื่อจำเลยมีไม้สักแปรรูปนั้นไว้ในครอบครองโดยมิใช่เพื่อการค้า จึงไม่ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่เพราะเข้าข้อยกเว้นตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯมาตรา 50(3) จำเลยไม่มีความผิดฐานมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯ มาตรา 48 วรรคแรก,73 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1776/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีไม้แปรรูปและไม้ยังไม่แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าของโรงสีและลูกจ้างมีส่วนร่วม
ก่อนที่เจ้าพนักงานตำรวจจะเข้าจับกุมไม้แปรรูปและมิได้แปรรูปของกลาง เจ้าพนักงานสืบสวนแล้วทราบว่าบริเวณโรงสีของจำเลยที่ 2 ที่เกิดเหตุเป็นแหล่งลักลอบขนไม้เถื่อน จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของดำเนินกิจการเกี่ยวกับโรงสีทุกอย่างในเมื่อจำเลยที่ 2 ไม่อยู่หากจำเลยที่ 1 มิได้มีส่วนร่วมในการมีไม้ของกลางไว้ใน ครอบครอง ก็ไม่มีเหตุอันใดที่จำเลยที่ 1 จะปล่อยให้รถบรรทุกไม้ จำนวนถึง 13 คัน คลุมด้วยผ้าใบเข้าไปจอดในบริเวณโรงสี ซึ่งมีรั้วรอบขอบชิด บางคันซุกซ่อนอยู่ในโกดังโดยจำเลยที่ 1 ไม่ตรวจสอบ และเมื่อถูกจับกุมจำเลยที่ 1 ก็ให้การว่า เคยพบเห็นรถบรรทุกในลักษณะนี้เข้ามาจอดในโรงสีหลายครั้งแล้ว จำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของโรงสีถ้ามิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ในการกระทำผิดด้วยแล้วก็ไม่มีเหตุอันใดที่จะยินยอมให้ รถบรรทุกไม้ของกลางเข้ามาจอดในโรงสีของตนได้เช่นนั้นจำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นตัวการมีไม้แปรรูปและมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองอันเป็นความผิดตามฟ้อง
of 20