คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
8 วัน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5118/2549 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายที่ล่าช้าเกิน 8 วัน นับแต่ทราบข้อเท็จจริง
คำร้องของผู้ร้องที่กล่าวอ้างว่าการส่งหมายนัดไต่สวนคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่ ถือได้ว่าเป็นการกล่าวอ้างพฤติการณ์การไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ. ในข้อที่ว่าด้วยการส่งคำคู่ความตาม ป.วิ.พ. มาตรา 27 ประกอบ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ.2542 มาตรา 14 ซึ่งผู้ร้องชอบที่จะใช้สิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบดังกล่าวได้ แม้เป็นระยะเวลาภายหลังจากศาลมีคำสั่งแล้ว แต่ต้องไม่ช้ากว่า 8 วัน นับแต่วันที่ผู้ร้องได้ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างนั้น แต่ตามคำร้องของผู้ร้องยอมรับว่า ได้ทราบว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2546 การที่ผู้ร้องเพิ่งมายื่นคำร้องเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2546 เกินกว่า 8 วัน จึงไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5186/2548

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบต้องยื่นภายใน 8 วัน นับแต่วันที่ทราบเหตุ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 วรรคสอง ที่กำหนดให้คู่ความฝ่ายที่เสียหายต้องยื่นคำร้องไม่ช้ากว่า 8 วัน นับแต่วันที่ได้ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเกิดจากมูลแห่งข้ออ้างนั้นใช้บังคับแก่การยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบทุกกรณีไม่ว่าจะอยู่ในระหว่างพิจารณาหรือหลังจากศาลพิพากษา ดังนั้นคำร้องของโจทก์ที่ขอให้ศาลชั้นต้นเพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดีที่สั่งโดยผิดระเบียบ โดยอ้างว่าการที่ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องขอเลื่อนคดีมายื่นต่อศาลโดยให้เหตุผลว่าป่วย ถือว่าโจทก์มาศาลและแจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบแล้ว ไม่ชอบที่ศาลชั้นต้นจะสั่งจำหน่ายคดีเพราเหตุโจทก์ไม่มาศาล จึงอยู่ในบังคับแห่งระยะเวลา 8 วัน ที่จะต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5612/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบต้องทำภายใน 8 วันนับจากวันที่ทราบเหตุ
จำเลยยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบอ้างว่า จำเลยไม่เคยแต่งตั้งให้ ว. เป็นทนายความการที่ว.อ้างว่าเป็นทนายความของจำเลย ขอรับสำเนาคำฟ้องแทน และแถลงว่าโจทก์จำเลยตกลงกันได้เป็นความเท็จ เป็นเหตุให้ศาลหลงเชื่อทำสัญญาประนีประนอมยอมความและพิพากษาตามยอม เป็นเหตุให้จำเลยได้รับความเสียหายหากความจริงเป็นดังที่จำเลยอ้างย่อมถือได้ว่าเป็นกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 วรรคหนึ่งแต่จำเลยต้องยกข้อค้านเรื่องผิดระเบียบนั้นไม่ช้ากว่าแปดวันนับแน่วันที่จำเลยทราบพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างตามวรรคสอง การที่จำเลยได้ยื่นคำร้องกล่าวหาว่า โจทก์และว.ละเมิดอำนาจศาล เนื่องจากพฤติการณ์ของ ว. ที่อ้างว่าเป็นทนายของจำเลยขอรับสำเนาคำฟ้อง และขอทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ ลายมือชื่อจำเลยในใบแต่งให้ ว. เป็นทนายความเป็นลายมือชื่อปลอม ซึ่งโจทก์รู้เห็นด้วย แสดงว่าจำเลยทราบพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างว่าผิดระเบียบตั้งแต่วันที่ยื่นคำร้องดังกล่าวเป็นอย่างช้า ดังนี้เมื่อจำเลยเพิ่งมายื่นคำร้องยกข้อค้านเรื่องผิดระเบียบนั้นเมื่อเกินกว่าแปดวัน จึงไม่ชอบตามมาตรา 27 วรรคสอง ชอบที่ศาลจะสั่งไม่รับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณา แม้ไม่เป็นประเด็นในชั้นฎีกา เมื่อคำร้องของจำเลยต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว ถือว่าเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7278/2537

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีกระทบสิทธิบุคคลภายนอกต้องใช้สิทธิภายใน 8 วัน หากไม่ดำเนินการสิทธิสิ้นสุด
เมื่อโจทก์จะให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกกระบวนวิธีการบังคับคดีทั้งปวงโดยอ้างว่า เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์พิพาทของโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกคดีมาทำการบังคับคดีเป็นการไม่ชอบ ทำให้โจทก์เสียหาย โจทก์ต้องยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลไม่ช้ากว่า8 วัน นับแต่ทราบการฝ่าฝืน เมื่อโจทก์ได้ยื่นคำร้องขัดทรัพย์ในคดีดังกล่าวแล้วมิได้ยื่นคำขอให้ยกเลิกการบังคับคดีจนการบังคับคดีได้เสร็จลงแล้ว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการบังคับคดีได้อีก แม้คำพิพากษาในคดีก่อนไม่ผูกพันโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกคดีแต่เมื่อการบังคับคดีมีผลกระทบต่อโจทก์ทำให้โจทก์เสียหาย โจทก์ก็ชอบที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ไม่ว่าจะเป็นการร้องขัดทรัพย์หรือขอให้เพิกถอนการบังคับคดี หากโจทก์ไม่ดำเนินการ หรือดำเนินการไม่ถูกต้องย่อมไม่มีอำนาจที่จะฟ้องขอให้เพิกถอนการบังคับคดีนั้น ๆ ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3384/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการเพิกถอนการขายทอดตลาด: จำเลยต้องยื่นคำร้องคัดค้านภายใน 8 วันนับแต่ทราบเหตุ
จำเลยฎีกาว่า ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้แบ่งแยกที่ดินทางด้านทิศเหนือให้แก่โจทก์และบุตรโจทก์ 1 ใน 3 ส่วน ซึ่งเป็นเรื่องที่โจทก์และจำเลยต้องนำเจ้าพนักงานไปรังวัดแบ่งแยกให้แก่โจทก์และบุตรโจทก์ แต่เจ้าพนักงานบังคับคดีกลับยึดที่ดินทั้งแปลงและขายทอดตลาดไปนั้น เป็นการอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสองจำเลยต้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นให้มีคำสั่งยกกระบวนวิธีการบังคับคดีนั้นเสีย ไม่ช้ากว่า 8 วัน นับแต่ทราบการฝ่าฝืนนั้นจำเลยทราบการยึดที่ดินทั้งแปลงของเจ้าพนักงานบังคับคดีตั้งแต่วันที่โจทก์นำยึด แต่เพิ่งมายื่นคำร้องในภายหลังครบกำหนด 8 วันมาช้านานแล้ว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ (จำเลยเพิ่งยกปัญหาว่าการยึดและการขายทอดตลาดเป็นการนอกเหนือคำพิพากษาศาลชั้นต้นในชั้นฎีกา เดิมศาลชั้นต้นสั่งไม่รับในประเด็นข้อนี้ แต่ต่อมาศาลฎีกามีคำสั่งให้รับ เพราะเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามคำสั่งคำร้องฎีกาที่ 2629/2534) ในวันขายทอดตลาดจำเลยได้มาดูแลการขาย แต่กลับไปก่อนที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะเขียนรายงานการขายทอดตลาดที่ดินให้แก่ผู้สู้ราคาสูงสุด แสดงว่าจำเลยได้ทราบในวันนั้นเองว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดที่ดินไปในราคาที่อ้างว่าต่ำกว่าราคาปกติจึงต้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นให้มีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดไม่ช้ากว่า 8 วัน นับแต่วันดังกล่าว ทั้งตามคำร้องของจำเลยก็ไม่ได้มีข้อความอันเป็นการกล่าวอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายแต่อย่างใด ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยในปัญหาข้อนี้จึงไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2753/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคัดค้านการขายทอดตลาดต้องยื่นภายใน 8 วันนับแต่วันทราบการกระทำที่ไม่ชอบ มิเช่นนั้นเสียสิทธิ
เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยออกขายทอดตลาดมีผู้ให้ราคาสูงสุด เจ้าพนักงานบังคับคดีเสนอศาล ศาลอนุญาตให้ขายได้ จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่อ้างว่าโจทก์กับพวกสมรู้กันประมูลซื้อทรัพย์โดยไม่สุจริต และเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดโดยไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นการกล่าวอ้างว่าการบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนกฎหมาย คำร้องเช่นนี้จะต้องยื่นต่อศาลไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่วันได้ทราบถึงการกระทำนั้นๆ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 27 และ 296 หากมิได้ยื่นภายในกำหนดดังกล่าวจำเลยย่อมไม่มีสิทธิคัดค้านการขายทอดตลาดนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9821/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนกระบวนพิจารณาต้องแจ้งภายใน 8 วันนับจากวันที่ทราบข้อเท็จจริงที่ทำให้เสียหาย มิฉะนั้นขาดสิทธิอ้าง
คำร้องของจำเลยฉบับลงวันที่ 28 มกราคม 2557 ที่ขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้น ป.วิ.พ. มาตรา 27 วรรคสอง ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 บัญญัติให้คู่ความฝ่ายที่เสียหายอาจยกขึ้นกล่าวอ้างได้ไม่ว่าเวลาใด ๆ ก่อนมีคำพิพากษา แต่ต้องไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่วันที่คู่ความฝ่ายนั้นได้ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างนั้น ตามคำร้องของจำเลยดังกล่าวอ้างว่า เจ้าหน้าที่ศาลส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 ให้จำเลยไม่ชอบเพราะบ้านของจำเลยซึ่งเป็นภูมิลำเนาตามฟ้องยังไม่ได้รื้อถอนและจำเลยพักอาศัยอยู่ที่บ้านดังกล่าวตลอดมา อันเป็นการยกข้ออ้างที่ทำให้จำเลยไม่ทราบว่าศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 ออกหมายจับจำเลยและอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 ไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ตาม แต่การที่จำเลยเพิ่งทราบเรื่องดังกล่าว จำเลยก็ชอบที่จะยกข้อคัดค้านในเรื่องผิดระเบียบดังกล่าวขึ้นกล่าวอ้างภายในเวลาไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่วันที่จำเลยได้ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างนั้นตามบทบัญญัติดังกล่าวข้างต้นด้วย ข้อเท็จจริงตามคำร้องปรากฏว่าเมื่อประมาณต้นเดือนธันวาคม 2556 จำเลยทราบจากเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดภูเก็ตว่า จำเลยแพ้คดีโดยศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีคำพิพากษาตั้งแต่ต้นปี 2556 และต่อมาประมาณต้นเดือนมกราคม 2557 จำเลยให้ทนายความติดตามรายละเอียดของสำนวนคดีจึงทราบว่า การส่งหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 ให้จำเลยไม่ชอบ จึงฟังได้ว่าจำเลยได้ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างในเรื่องผิดระเบียบตามคำร้องดังกล่าวของจำเลยจากทนายความตั้งแต่ประมาณต้นเดือนมกราคม 2557 แล้ว เมื่อจำเลยยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่อ้างว่าผิดระเบียบเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2557 จึงช้ากว่าแปดวันนับแต่วันที่จำเลยได้ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างนั้นแล้ว จำเลยย่อมหมดสิทธิยกขึ้นอ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2558

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนกระบวนพิจารณาต้องยื่นคำร้องภายใน 8 วันนับแต่ทราบข้อผิดพลาด มิฉะนั้นขาดสิทธิ
คำร้องของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ที่ว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้การรับสารภาพเกิดจากการจูงใจของผู้ทำการไกล่เกลี่ยที่ปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์สันติวิธีและสมานฉันท์ ขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2556 ในส่วนที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ขอถอนคำให้การเดิมที่ให้การปฏิเสธเป็นให้การรับสารภาพ และมีคำสั่งให้ดำเนินการสืบพยานโจทก์และจำเลยต่อไปนั้น เป็นกรณีที่กล่าวอ้างว่ามิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนในเรื่องการพิจารณาคดี ซึ่งกรณีที่มิได้ปฏิบัติเช่นนั้นและศาลเห็นสมควร ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจของศาลเองสั่งเพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้นได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 27 วรรคหนึ่ง ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 แม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดยื่นคำร้องขอก็ตาม แต่สำหรับกรณีที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ซึ่งเป็นคู่ความฝ่ายที่ต้องเสียหายเป็นผู้ยกขึ้นอ้าง ต้องตกอยู่ในบังคับ ป.วิ.พ. มาตรา 27 วรรคสอง ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 ที่ว่า จะต้องยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องก่อนมีคำพิพากษา แต่ต้องไม่เกินแปดวันนับแต่วันที่คู่ความฝ่ายนั้นได้ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างนั้น แต่ทั้งนี้คู่ความฝ่ายนั้นต้องมิได้ดำเนินการอันใดขึ้นใหม่หลังจากที่ได้ทราบเรื่องผิดระเบียบแล้ว หรือต้องมิได้ให้สัตยาบันแก่การผิดระเบียบนั้น ๆ ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 ยื่นคำร้องเกินกำหนดแปดวันนับแต่ทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างนั้น จำเลยที่ 1 และที่ 2 ย่อมไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบดังกล่าว และกรณีไม่จำต้องวินิจฉัยว่าศาลเห็นสมควรเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบหรือไม่อีก เพราะเป็นคนละกรณีกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 959/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบต้องยื่นภายใน 8 วันนับแต่ทราบข้อเท็จจริง มิฉะนั้นศาลไม่รับพิจารณา
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของผู้ร้อง ในวันเดียวกับที่ผู้ร้องยื่นคำร้อง โดยท้ายคำร้องมีหมายเหตุว่าข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอให้ถือว่าทราบแล้ว จึงถือว่าผู้ร้องทราบคำสั่งในวันนั้นแล้ว ผู้ร้องซึ่งได้รับความเสียหายต้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการพิจารณาที่ผิดระเบียบนั้นก่อนมีคำพิพากษา แต่ต้องไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่วันที่ผู้ร้องทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเป็นมูลแห่งข้ออ้างนั้น
ศาลชั้นต้นพิจารณาเนื้อหาของคำร้องให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาผิดระเบียบของผู้ร้อง แล้วมีคำสั่งว่า จำเลยที่ 2 มีชื่อเป็นเจ้าของที่ดิน ทรัพย์ที่ถูกยึดจึงไม่ใช่ของผู้ร้อง คดีของผู้ร้องจึงไม่มีมูล ไม่มีเหตุเพิกถอนคำสั่งเดิม ให้ยกคำร้อง เป็นการพิจารณาสั่งตามเนื้อหาของคำร้อง แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่า คำร้องของผู้ร้องยื่นเกินกำหนดระยะเวลาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 27 วรรคสอง อันเป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 เห็นพ้องด้วยในผลแห่งคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 จะต้องพิพากษายืน แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 กลับพิพากษายกอุทธรณ์ของผู้ร้อง จึงเป็นการพิพากษาโดยมิชอบ ศาลฎีกาแก้ไขให้ถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6252/2550

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบต้องยื่นภายใน 8 วันนับแต่วันที่ทราบคำสั่ง
ป.วิ.พ. มาตรา 27 วรรคสอง ที่กำหนดให้คู่ความฝ่ายที่เสียหายต้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบไม่ช้ากว่า 8 วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบข้อความหรือพฤติการณ์อันเกิดมูลแห่งข้ออ้างนั้น ใช้บังคับแก่การยื่นคำร้องให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบทุกกรณีไม่ว่าจะอยู่ในระหว่างพิจารณาหรือหลังจากศาลพิพากษา