พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1858/2560
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาพิพาท (Funding Agreement) ไม่ใช่สัญญาค้ำประกัน และศาลยืนตามคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ
ผู้ร้องเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ปี 2538 ผู้ร้องกับบริษัท ท. ร่วมกันจัดตั้งบริษัทกิจการร่วมค้า ตามคำคัดค้านชั้นอนุญาโตตุลาการ ปี 2544 บริษัทกิจการร่วมค้าดังกล่าวทำสัญญากู้ยืมเงินจากผู้คัดค้าน โดยผู้ร้องทำสัญญาพิพาทไว้กับผู้คัดค้านรับรองว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้โครงการของผู้กู้แล้วเสร็จ โดยเอกสารระบุว่าสัญญานี้อยู่ภายใต้บังคับและการตีความตามกฎหมายไทย ซึ่งกฎหมายไทยไม่มีบทบัญญัติว่าจะต้องนำสัญญาดังกล่าวไปจดทะเบียนต่อหน่วยงานของรัฐก่อนการมีผลใช้บังคับ แม้ผู้ร้องไม่ได้นำสัญญาไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ก็ไม่ทำให้ผู้ร้องบกพร่องความสามารถในการเข้าทำสัญญาตามกฎหมายไทย สัญญาพิพาทจึงสมบูรณ์ เมื่อสัญญาพิพาท ข้อ 2 ระบุว่าผู้ร้องให้คำรับรองว่าจะสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทกิจการร่วมค้า ผู้กู้ เพื่อให้สามารถทำโครงการจนแล้วเสร็จ และข้อ 3 ระบุว่าผู้ร้องจะชำระเงินแก่ผู้คัดค้านในฐานะผู้ให้กู้สำหรับการขาดทุน ต้นทุน ค่าใช้จ่าย และค่าเสียหายต่าง ๆ เนื่องจากผู้ร้องไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามข้อ 2 ดังนั้น ข้อตกลงหลักของสัญญาพิพาทคือผู้ร้องมีหน้าที่สนับสนุนทางการเงินแก่ผู้กู้ จะมีความรับผิดต้องชำระเงินแก่ผู้ให้กู้ต่อเมื่อผู้ร้องไม่ปฏิบัติหน้าที่ข้างต้น ไม่ใช่ข้อตกลงที่ผู้ร้องยอมผูกพันตนชำระหนี้แก่ผู้ให้กู้หากผู้กู้ไม่ชำระ สัญญาพิพาท (Funding Agreement) จึงไม่ใช่สัญญาค้ำประกันตาม ป.พ.พ. แต่เป็นสัญญาทางแพ่งประเภทหนึ่งที่ไม่มีชื่อระบุใน ป.พ.พ. แม้ผู้คัดค้านขยายระยะเวลาการชำระหนี้แก่ลูกหนี้ ผู้ร้องก็ไม่หลุดพ้นจากความรับผิด ดังนั้น คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการคดีนี้ชอบด้วยกฎหมาย การยอมรับหรือบังคับตามคำชี้ขาดไม่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ไม่มีเหตุที่ศาลจะเพิกถอนคำชี้ขาดได้