โจทก์ฟ้องว่า เมื่อ ๙ ก.ค.๒๕๐๐ เวลากลางคืน จำเลยกับพวกอีกคนหนึ่งสมคบกันใช้ปืนยิงนายเผือ ถมยา โดยเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนแต่มีเหตุอันพ้นวิสัยจะป้องกันได้มาขัดขวางเสียโดยกระสุนพลาดที่หมายสำคัญ นายเผือจึงไม่ตาย แต่ได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยมือและแขนทุพพลภาพตลอดชีวิต
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙,๘๐,๕๒(๑) จำคุก ๑๖ ปี
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า วันเกิดเหตุเวลา ๑๗.๐๐ น.จำเลยกับนายโหยดมาที่บ้านนายเผือผู้เสียหายด้วยมีกิริยาเมาสุรา จำเลยขอให้ผู้เสียหายฆ่าไก่เลี้ยงจำเลยและให้ไปซื้อสุรามากินและให้ฆ่าม้ากิน ผู้เสียหายปฏิเสธ จำเลยและนายโหยดโกรธ นายโหยดพูดว่าอยากเห็นคนจริงไหม ผู้เสียหายไม่ตอบ เพราะเห็นนายโหยดมีปืนเกรงจะยิง จำเลยกับนายโหยดลงเรือนไป ต่อมาเวลา ๑๙.๐๐ น.จำเลยนายโหยดกับพวกเข้าไปยิงผู้เสียหายบนเรือน พิพากษากลับศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น