คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1055/2510

ทนายจำเลยมอบหมายให้ผู้ใดมายื่นคำให้การก็ย่อมต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำของผู้นั้น เสมือนหนึ่งว่าทนายจำเลยมายื่นคำให้การด้วยตนเอง

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 199 วรรคสอง มิได้บังคับว่าศาลจะต้องไต่สวนคำร้องของจำเลยก่อน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏชัดแจ้งแล้ว ศาลก็มีคำสั่งให้ดำเนินคดีต่อไปได้ โดยไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การ

ทนายโจทก์ยื่นคำแก้อุทธรณ์เกินกำหนด ศาลสั่งไม่รับเป็นคำแก้อุทธรณ์คำแก้อุทธรณ์ในลักษณะเช่นนี้พอถือได้ว่าเป็นคำแถลงการณ์ ฟังได้ว่าทนายโจทก์ได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งให้จำเลยใช้ค่าทนายแทนโจทก์ได้

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินจำนวน 29,659.90 บาท ค่าน้ำมันเบนซินที่จำเลยซื้อไปจากโจทก์พร้อมดอกเบี้ย

จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามฟ้อง ฯลฯ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าในข้อที่จำเลยฎีกาว่ามิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การนั้น เห็นว่าทนายจำเลยมอบหมายให้ผู้ใดมายื่นคำให้การก็ย่อมต้องรับผิดในผลแห่งการกระทำผู้นั้นเสมือนหนึ่งว่าทนายจำเลยมายื่นคำให้การด้วยตนเอง เมื่อยื่นคำให้การช้าไปกว่ากำหนด 1 วัน ถือว่าจำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การมาตรา 199 วรรค 2 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มิได้บังคับว่าศาลจะต้องไต่สวนคำร้องของจำเลยก่อน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏชัดแล้วศาลก็มีคำสั่งให้ดำเนินคดีต่อไปได้ โดยไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การ หาจำต้องไต่สวนคำร้องจำเลยไม่

ข้อที่ฎีกาว่าทนายโจทก์มิได้แก้อุทธรณ์จึงไม่ควรได้รับค่าทนายนั้น เห็นว่าปรากฏว่าทนายโจทก์ยื่นคำแก้อุทธรณ์เกินกำหนด ศาลสั่งไม่รับเป็นคำแก้อุทธรณ์ คำแก้อุทธรณ์ในลักษณะเช่นนี้พอถือได้ว่าเป็นคำแถลงการณ์ ฟังได้ว่าทนายโจทก์ได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์สั่งให้จำเลยใช้ค่าทนายแทนโจทก์ได้

ฯลฯ

พิพากษายืน