โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องพิพาทของโจทก์กับพวกซึ่งให้จำเลยอาศัยอยู่ จำเลยให้การว่าห้องพิพาทเป็นขอบมารดาจำเลยพวกโจทก์ได้มาขออาศัยเป็นสถานที่ของสมาคมยี่วอควน เมื่อมารดาจำเลยตาย จำเลยได้รับมรดกและปกครองตลอดมาจนทุกวันนี้ และจำเลยได้อนุญาตให้โจทก์อาศัยเพื่อกิจการของสมาคม และตัดฟ้องว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง และคดีขาดอายุความ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ และฟังข้อเท็จจริงว่า ห้องพิพาทเป็นของบิดามารดาจำเลยเป็นมรดกตกได้แก่จำเลย ๆ ให้โจทก์อาศัยห้องพิพาทเกี่ยวกับการกุศล พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์มีสิทธิฟ้องได้ และฟังว่าห้องพิพาทเป็นของโจทก์ให้จำเลยอาศัยอยู่ พิพากษากลับ ให้ขับไล่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ห้องพิพาทเป็นของโจทก์ และคดีนี้โจทก์มิได้ฟ้องในนามของสมาคม แต่โจทก์ฟ้องในฐานะเป็นบุคคลธรรมดาเป็นเจ้าของร่วมกัน ข้อคัดค้านว่าเจ้าของมีหลายคน แต่ไม่ได้มาเข้าชื่อเป็นโจทก์ทั้งหมดนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเมิด ซึ่งสิทธิของโจทก์ถูกกระทบกระเทือน จึงมีสิทธิฟ้องในนามของโจทก์เอง และจำเลยคัดค้านว่าจำเลยอยู่มาช้านาน โจทก์เพิ่งมาฟ้องจึงขาดอายุความ เห็นว่าจำเลยได้อยู่มาโดยทางอาศัย จะยกอายุความขึ้นต่อสู้ไม่ได้ และคดีนี้เป็นเรื่องอาศัย หาได้อยู่ในความคุ้มครองของพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน
พิพากษายืน