คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1082/2510

ชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นพิจารณายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนและพิจารณาพิพากษาต่อไปตามมูลคดี ดังนี้ จำเลยจะฎีกาหาได้ไม่เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 165 วรรค 3 ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะประทับฟ้อง มิให้ถือว่าจำเลยอยู่ในฐานะเช่นนั้น ฉะนั้น จึงเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์

คดีนี้ โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยเบิกความเท็จ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๗๗

ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนมูลฟ้อง ครั้นถึงวันนัด ศาลชั้นต้นสั่งงดการไต่สวนแล้วพิพากษาว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามคำฟ้อง โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๘ ให้ยกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องจำเลยได้ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องและพิจารณาพิพากษาต่อไปตามมูลคดี

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๕ วรรค ๓ ก่อนที่ศาลจะประทับฟ้อง มิให้ศาลถือว่าจำเลยอยู่ในฐานะเช่นนั้น ฉะนั้น การที่ศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องและพิจารณาพิพากษาต่อไปตามมูลคดี จึงเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์ จำเลยยังไม่มีสิทธิฎีกาพิพากษายกฎีกาจำเลย