คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยประพฤติผิดสัญญาเช่า หมดอายุ โจทก์ได้บอกกล่าวเลิกการเช่าแล้วทั้งจำเลยเช่าเพื่อการค้า ขอให้ขับไล่และชำระค่าเสียหายจำเลยต่อสู้ว่าเช่าเพื่ออยู่อาศัยโจทก์ไม่ได้บอกกล่าวเลิกการเช่าตาม ก.ม.และได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารและให้ใช้ค่าเสียหาย
จำเลยอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าเป็นคดีมโนสาเร่ ศาลชั้นต้นไม่ได้สั่งให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงได้ ศาลอุทธรณ์จึงวินิจฉัยได้แต่ปัญหาข้อ ก.ม.เท่านั้น คือห้องพิพาทเป็นเคหะหรือไม่แล้วพิพากษายืน แต่มีความเห็นแย้งรับวินิจฉัยข้อเท็จจริงให้และเห็นควรยกฟ้องโจทก์กับกล่าวด้วยว่ารับรองให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.๒๔๘
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับทั้งปัญหาข้อเท็จจริงและข้อ ก.ม.เพราะมีความเห็นแย้งและคำรับรอง
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าอันมีอัตราค่าเช่า เดือนละ ๑๒ บาท เป็นคดีมโนสาเร่ ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.๑๘๙ (๑) ซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ม.๒๒๔ นอกจากจะต้องด้วยข้อยกเว้นดังที่ระบุไว้ อุทธรณ์ของจำเลยส่วนมากยกเหตุผลโต้แย้งในปัญหาข้อเท็จจริง แม้ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลยก็ตาม ก็เพียงแต่สั่งว่า "รับอุทธรณ์" เฉย ๆ เท่านั้นมิได้มีข้อความอันใดที่แสดงให้เห็นว่าเป็นการรับรองให้อุทธรณ์ได้ในปัญหาข้อเท็จจริงด้วยเลย กรณีจึงไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นประการใดอันจะกระทำให้ปัญหาข้อเท็จจริงในคดีเรื่องนี้ขึ้นมาสู่ความวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ได้ ศาลฎีกาเห็นว่าศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยข้อเท็จจริงเป็นการชอบแล้วและเมื่อคดีต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงแล้วจะมีความเห็นแย้งในปัญหาข้อเท็จจริงกระไรได้
อนึ่งสิทธิ รับรองฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.แพ่ง ม.๒๔๘ นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าจะต้องเป็นในคดีที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงด้วยแล้วตามอำนาจของศาลอุทธรณ์ แต่คดีเรื่องนี้ปัญหาข้อเท็จจริงเป็นอันต้องห้ามเสียแล้ว ตั้งแต่ชั้นอุทธรณ์ จะกลับมารับรองปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งได้ยุติไปแล้วนั้น เพื่อให้ศาลฎีการื้อฟื้นขึ้นวินิจฉัยใหม่นั้นไม่ได้
ศาลฎีกาเห็นพ้องตามคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ซึ่งถือข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยจากพยานหลักฐานในสำนวนว่าจำเลยได้ใช้ห้องเช่ารายนี้เป็นร้านตัดผม ซึ่งเป็นการใช้ห้องพิพาทเพื่อทำการค้า ซึ่งไม่ใช่ "เคหะ" อันได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ จึงพิพากษายืน