คดี ๒ สำนวนนี้พิจารณาพิพากษารวมกันโจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองบังอาจกล่าวคำหมิ่นประมาทและดูหมิ่นนายสด วิสุทธิธาดา ซึ่งหน้าว่า "อ้ายชาติหมา อ้ายครูสดบ้านลอมกลาง" ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม.๓๓๙(๒) ประมวลอาญา ม.๓๙๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษตามประมวลอาญา ม.๓๙๙ ซึ่งเป็นคุณแก่จำเลย ปรับคนละ ๒๐๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยหมิ่นประมาทนายสดซึ่งหน้า มีผิดตาม ก.ม.อาญา ม.๓๓๙ (๒) แต่ที่ให้ลงโทษตามประมวลอาญา ม.๓๙๓ นั้น ไม่เห็นพ้องด้วย เพราะความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.๓๓๙(๒) นั้น ถ้าจะลงโทษปรับสถานเดียวจะปรับเกิน ๕๐ บาท ไม่ได้แต่ประมวลอาญาม.๓๙๓ มีอัตราโทษปรับไม่เกิน ๕๐๐ บาท และศาลชั้นต้นก็ปรับจำเลยถึงคนละ ๒๐๐ บาท จะว่าเป็นคุณแก่จำเลยไม่ได้ พิพากษาแก้เฉพาะการลงโทษเป็นให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม.๓๓๙ (๒) ปรับคนละ ๕๐ บาท
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาเห็นว่าโทษตามประมวลอาญา ม.๓๙๓ มีโทษสถานเดียวปรับไม่เกิน ๕๐๐ บาท ส่วนโทษตาม ก.ม.อาญา ม.๓๓๙ (๒) มีโทษ๓ สถาน ปรับไม่เกิน ๕๐ บาท สถานหนึ่ง จำคุกไม่เกิน ๑๐ วัน สถานหนึ่ง หรือทั้งจำทั้งปรับอีกสถานหนึ่ง ตาม ก.ม.อาญา ม.๓๓๙ (๒) ศาลอาจใช้ดุลยพินิจได้ถึงจำคุก หรือทั้งจำคุกทั้งปรับ แต่ประมวลอาญา ศาลลงโทษปรับได้สถานเดียว ย่อมเห็นได้ว่าโทษตาม ก.ม.อาญา ม.๓๓๙(๒) แรงกว่าโทษตามประมวลอาญา ม.๓๙๓ ที่ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามประมวลอาญา ม.๓๙๓ จึงชอบแล้ว แต่ศาลฎีกาเห็นว่าโทษปรับที่ศาลอุทธรณ์กำหนดคนละ ๕๐ บาทนั้น สมควรแก่รูปคดีแล้ว จึงพิพากษาแก้เฉพาะบทลงโทษ เป็นลงโทษตามประมวลอาญา ม.๓๙๓ ปรับคนละ ๕๐ บาท