โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้เอาที่ดินของโจทก์ทำสัญญาจำนองแก่นายสุขนางเชื้อเป็นเงิน ๖๔๐ บาท เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๔ และได้ให้ผู้รับจำนองเก็บผลประโยชน์ต่างดอกเบี้ยตลอดมาต่อมาผู้รับจำนองวายชนม์ จำเลยเป็นผู้รับมฤดก โจทก์ขอไถ่จำนอง จำเลยไม่ยอมให้ไถ่ ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การต่อสู้ว่า โจทก์ไม่มีสิทะิ์ฟ้องขอไถ่ถอนการจำนองรายนี้ เพราะสัญญามีกำหนดให้ไถ่ภายใน ๓ ปี ถ้าไม่ไถ่ให้หลุดเป็นสิทธิ์ โจทก์ละเลยไม่ไถ่ภายในกำหนดที่อยู่ในความครอบครองของจำเลยมากกว่าสิบปี และตัดฟ้องว่าคดีของโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ปรับบทเป็นขายฝากตามกฎหมายเก่าตามประกาศเรื่องจำนำและขายฝากที่ดิน ร.ศ. ๑๑๘ ข้อ ๖ พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า คดีควรบังคับตามลักษณะจำนองตาม ป.ม.แพ่งฯ เพราะภายหลังทำสัญญากันเพียง ๔ ปีเศษ ก็ใช้ ป.ม.แพ่งฯ ซึ่งโจทก์คงมีสิทธิ์ไถ่ถอนได้อยู่
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์รับอยู่แล้วว่า เมื่อทำสัญญาจำนำโจทก์จำเลยได้ปฏิบัติต่อกันอย่างขายฝากคือมอบที่ดินให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ย ซึ่งตามกฎหมายเก่าถือว่าเป็นเรื่องขายฝากเมื่อเป็นเช่นนี้ แม้จะได้ประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งฯ ในภายหลัง ก็หาทำให้สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยที่ปฏิบัติต่อกันกลายเป็นสัญญาจำนองตามกฎหมายใหม่ไม่ เมื่อยังเป็นขายฝาก อายุความไถ่+มีสิบปีเท่าเดิมตาม ป.ม.แพ่งฯ มาตรา ๔๔๔ (๑) พิพากษายืนให้โจทก์แพ้คดี