โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองสมคบกันใช้มีดแทงทำร้ายนายเจียวโป๊ถูกที่คอ ๑ แห่งตามร่างกายอีกหลายแห่งด้วยความพยาบาทมาดหมายโดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย ผู้ตายถึงแก่ความตายในทันที ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.อาญา ม.๒๕๐,๖๓ จำเลยที่ ๑ ให้การรับสารภาพจำเลยที่ ๒ ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ มีความผิดฐานฆ่าคนตายตาม ก.ม.อาญา ม.๒๕๐ ให้ลงโทษประหารชีวิต ลดโทษตาม ม.๕๙ ประกอบ ม.๓๗ คงจำคุก ๒๐ ปี ยกฟ้องจำเลยที่ ๒
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่ ๒ เพราะส่งสำเนาอุทธรณ์ไม่ได้ คดีเฉพาะตัวจำเลยที่ ๑ คงพิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกาว่าความผิดของจำเลยต้องด้วย ม.๒๔๙ การลดโทษไม่ชอบ
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีฟังได้ถนัดว่านายโอวหรือบักเล้ง จำเลยเป็นผู้ใช้มีดของกลางทำร้ายนายเจียวโป๊ถึงแก่ความตายจริง ถึง ๓ แผล ๆ ที่คอเป็นแผลฉกรรจ์และนายเจียวโป๊ถึงแก่ความตายในขณะนั้น เหตุที่เกิดฆ่ากันฟังได้มั่นคงว่าเพราะจำเลยเป็นชู้กับนางซิวเอี๊ยะจำเลยและอยากจะอยู่กินด้วยกันฉันท์สามีภรรยาโดยเปิดเผย การที่จำเลยลอบขุดดินเป็นเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงจึงลอดตัวเข้าไปฆ่านายเจียวโป๊ซึ่งนอนอยู่ในโรงได้สมประสงค์นั้นแสดงว่าจำเลยกระทำโดยความพยายามด้วยความพยาบาทมาดหมาย ศาลล่างทั้งสองชี้ขาดว่าจำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายตาม ก.ม.อาญา ม.๒๕๐ นั้น ชอบด้วยรูปคดีแล้ว และที่ศาลล่างทั้งสองลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก ๒๐ ปี ก็เป็นผลดีแก่จำเลยแล้ว การลดโทษประหารชีวิตตาม ก.ม.อาญา ม.๕๙ และ ม.๓๗ นั้นต้องควบกัน ม.๓๗ เป็นหลักเกณฑ์การลดโทษว่ามากน้อยเพียงไร ม.๕๙ เป็นดุลยพินิจในการลดโทษให้ ไม่ใช่ลดโทษตาม ม.๕๙ แล้วลดโทษตาม ม.๓๗ เป็นสองชั้นดังจำเลยฎีกามา พิพากษายืน