โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลเป็นผู้จำหน่ายน้ำมันก๊าดในประเทศไทย โดยใช้รูปนูนตรามงกุฏ และต่อมาได้ประดิษฐ์รูปรอยข้อความอย่างอื่นเป็นเครื่องหมายการค้าติดอยู่ (๓๐ เมษายน ๒๕๑๑) วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยที่ ๑ เป็นห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล จำเลยที่ ๒ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการได้สมคบร่วมกันเลียนเครื่องหมายการค้ารูปมงกุฎของโจทก์โดยนำเอาคำว่า "อย่างดี" มาดัดแปลงทำเป็นรูปนูนให้มีรูปลักษณะคล้ายกับรูปมงกุฎของโจทก์ และจำเลยยังได้เอารูปรอยประดิษฐ์และข้อความในการประกอบการค้าบนฝาปีบน้ำมันก๊าดของโจทก์มาดัดแปลงทำให้มี ขึ้นบนฝาปีบบรรจุน้ำมันก๊าดของจำเลย โดยมีรูปลักษณะคล้ายคลึงกับของโจทก์แสดงไว้ให้ปรากฏด้วยและในระหว่างวันดังกล่าวข้างต้นจำเลยทั้งสองไดสมคบกันจำหน่ายสินค้าน้ำมันก๊าดที่เลียนเครื่องหมายบนฝาปีบน้ำมันดังกล่าวมานั้นต่อประชาชนทั่วราชอาณาจักรเป็นการหลอกลวงให้ประชาชนหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพแห่งสินค้า อันเป็นเท็จและเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของโจทก์ทำให้โจทก์เสียหาย เหตุเกิดที่ตำบลวัดกัลยาณ์ อำเภอธนบุรี จังหวัดธนบุรี การจำหน่ายสินค้าน้ำมันก๊าดที่เลียนเครื่องหมายดังกล่าวเกิดทั่วราชอาณาจักร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๑, ๒๗๒(๑), ๒๗๔, ๒๗๕, ๕๙ และ ๘๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว สั่งประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดีโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๑ จำคุก ๓ เดือน ปรับ ๑,๕๐๐ บาท โทษจำคุกรอไว้ ๓ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๕๖ ข้อหาอื่นให้ยก
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำคุกโดยไม่รอ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยมีความผิดตามบทกฎหมายที่ศาลชั้นต้นวางมาและควรรอการลงโทษ พิพากษาแก้เฉพาะลงโทษจำคุกจำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นนิติบุคคลไม่ได้ จึงให้ปรับจำเลยที่ ๑ ๑,๕๐๐ บาท นอกจากที่แก้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกาว่าไม่มีความผิดตามมาตรา ๒๗๑ ศาลชั้นต้นส่งรับเฉพาะในปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในชั้นฎีกาคงมีปัญหาวินิจฉัยเฉพาะข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๑ เท่านั้น ส่วนข้อหาความผิดตามมาตราอื่นเป็นอันยุติไปแล้ว ได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่าความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๑ นั้นเป็นบทบัญญัติกำหนดเอาผิดแก่ผู้ขายของโดยหลอกลวงให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพหรือปริมาณอันเป็นเท็จ ผู้เสียหายจากความผิดดังนี้คือผู้ซื้อซึ่งจะเป็นโจทก์ฟ้องคดีขอให้ลงโทษแก่ผู้กระทำผิดได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๘ โจทก์ในคดีนี้ตามที่กล่าวพรรณาไว้ในคำฟ้องมิใช่เป็นผู้ซื้อจึงหามีอำนาจฟ้องคดีขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรานี้ไม่ได้ ชอบที่ศาลจะให้ยกฟ้องของโจทก์ที่ฟ้องมาตามมาตรานี้เสียโดยไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยฎีกาในข้ออื่นต่อไป
ศาลฎีกาพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์ตามมาตรานี้ด้วย