ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผิดสัญญาซื้อขาย, การแจ้งเตือน, การลดเบี้ยปรับ และการชดใช้ค่าเสียหาย
การที่จำเลยไม่ส่งมอบสิ่งของให้โจทก์ตรงตามกำหนดสัญญาโจทก์มิได้บอกเลิกสัญญาทันที แต่ได้มีหนังสือแจ้งเตือนให้จำเลยส่งมอบสิ่งของตามสัญญาและสงวนสิทธิจะเรียกร้องค่าปรับตามสัญญาการที่โจทก์มีหนังสือแจ้งเตือนให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าวมิใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ยินยอมให้จำเลยขยายกำหนดเวลาส่งมอบออกไปอันเป็นการยกเลิกกำหนดเวลาส่งมอบตามสัญญาเดิม แต่เป็นกรณีที่โจทก์ให้จำเลยปฏิบัติการชำระหนี้ตามสัญญาให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว และบอกสงวนสิทธิเรียกร้องเบี้ยปรับเอาไว้ในการที่จำเลยไม่ชำระหนี้ตรงตามเวลาที่กำหนด เมื่อจำเลยมิได้ส่งมอบสิ่งของให้โจทก์ภายในเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาจำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา และเมื่อโจทก์มีหนังสือเตือนดังกล่าวแล้ว จำเลยมีหนังสือถึงโจทก์ยินยอมให้โจทก์ปรับเงินตามสัญญา ทั้งแจ้งเหตุขัดข้องในการส่งมอบสิ่งของจึงเป็นกรณีที่โจทก์ไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามข้อ 8 โดยให้โอกาสจำเลยปฏิบัติการชำระหนี้ และจำเลยยังต้องการปฏิบัติตามสัญญาโดยยินยอมให้โจทก์ปรับ แต่เมื่อจำเลยไม่สามารถส่งสิ่งของตามสัญญาให้แก่โจทก์ได้อีก และขอบอกเลิกสัญญาโจทก์จึงมีสิทธิเรียกเอาเบี้ยปรับจากจำเลยเป็นรายวันในอัตราร้อยละ 0.2 ของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบนับถัดจากวันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันบอกเลิกสัญญา ข้อ 9 วรรคแรก โจทก์ได้ซื้อจอกทองเหลือง จำนวน 70,000 อัน ในราคา 910,000 บาทจากคณะกรรมการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เป็นการซื้อในราคาที่สูงกว่าที่จำเลยตกลงขายแก่โจทก์เป็นเงิน 252,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้โจทก์จะต้องนำไปหักกับหลักประกันจำนวน 65,800 บาท ที่จำเลยนำธนาคารทหารไทย จำกัด มาค้ำประกันไว้ และโจทก์ได้ริบไปแล้วเพราะถือเป็นค่าเสียหายส่วนหนึ่ง จำเลยจึงต้องรับผิดชำระค่าเสียหายที่โจทก์ต้องซื้อสิ่งของแพงขึ้นเป็นเงินเพียง 186,200 บาท การที่ศาลล่างทั้งสองลดเบี้ยปรับรายวันให้จำเลยกึ่งหนึ่งคงเหลือเงินเบี้ยปรับจำนวน 120,414 บาท ที่จำเลยต้องชำระแก่โจทก์โดยเห็นว่าโจทก์มิได้รับความเสียหายเป็นพิเศษอย่างอื่น เพียงแต่ต้องซื้อสิ่งของแพงขึ้น และจำเลยก็รับผิดไปแล้วเป็นจำนวนเงินพอสมควร จึงเป็นการพิเคราะห์ถึงทางได้เสียของโจทก์ทุกอย่างโดยชอบด้วยกฎหมายในเชิงทรัพย์สินเมื่อได้ใช้เบี้ยปรับแล้ว ดังนั้นที่ศาลล่างทั้งสองลดเบี้ยปรับให้จำเลยจึงนับว่าเป็นการใช้ดุลพินิจที่เหมาะสมแล้ว