โจทก์ฟ้องว่า โจทก์นำรถแทรกเตอร์และเครื่องรุนซึ่งใช้สำหรับดันหินที่ระเบิดแล้วจากยอดเขาให้ยกลงมาข้างล่างเพื่อขนไปทำซิเมนต์ ได้รับยกเว้นภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากร มาตรา 79 ตรี(11) จึงขอให้จำเลยคืนเงินภาษีที่เรียกเก็บไป
จำเลยให้การว่ารถแทรกเตอร์และเครื่องรุนไม่ใช่เครื่องจักรที่ใช้ผลิตซิเมนต์จึงไม่ได้รับยกเว้นภาษี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่า ลักษณะการใช้รถแทรกเตอร์และเครื่องรุนถือไม่ได้ว่าเป็นการใช้ในการผลิตซิเมนต์ของโจทก์ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในประเด็นที่ว่ารถแทรกเตอร์และเครื่องรุนตามฟ้องเป็นเครื่องจักรและส่วนประกอบของเครื่องจักรที่ใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับผลิตซิเมนต์หรือไม่นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าเครื่องจักร ส่วนประกอบ และอุปกรณ์ของเครื่องจักรที่โจทก์นำเข้ามาในราชอาณาจักรมาใช้ในการผลิตซิเมนต์ของโจทก์ที่จะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากร มาตรา 79 ตรี(11) นั้น จะต้องเป็นเครื่องจักร ส่วนประกอบและอุปกรณ์ของเครื่องจักรเพื่อใช้ในการผลิตซิเมนต์ของโจทก์ แต่ตามฟ้องของโจทก์กล่าวว่า รถแทรกเตอร์และเครื่องรุนที่โจทก์นำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อใช้ในการผลิตซิเมนต์ของโจทก์ ใช้สำหรับดันหินที่ระเบิดแล้วจากยอดเขาให้ตกลงมาข้างล่างเพื่อขนไปทำซิเมนต์ต่อไป ทั้งในอุทธรณ์และฎีกาของโจทก์ก็กล่าวว่าโจทก์ใช้รถแทรกเตอร์และเครื่องรุนตามฟ้องเป็นเครื่องจักรในการดันหินที่ระเบิดแล้วจากยอดเขาให้ตกลงมาข้างล่างเพื่อนำไปเข้าเครื่องจักรในการผลิตซิเมนต์ขั้นต่อไป จึงฟังได้ว่ารถแทรกเตอร์และเครื่องรุนที่โจทก์นำเข้ามาในราชอาณาจักรไม่ใช่เครื่องจักรที่ใช้ผลิตซิเมนต์และไม่ใช่ส่วนประกอบหรืออุปกรณ์ที่ใช้ประกอบกับเครื่องจักร ที่ใช้ผลิตซิเมนต์เพื่อให้เครื่องจักรดังกล่าวทำงานแต่อย่างใด รถแทรกเตอร์และเครื่องรุนดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กับเครื่องจักรที่ใช้ผลิตซิเมนต์ จึงไม่จำต้องให้สืบพยานอีก ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคดีไม่จำต้องมีการสืบพยานอีกและรถแทรกเตอร์และเครื่องรุนที่โจทก์นำเข้ามาในราชอาณาจักรไม่ใช่อุปกรณ์เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตซิเมนต์ของโจทก์ แล้วพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืน