โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของเทศบาลนครกรุงเทพ โดยเป็นผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลกรุงเทพ(ประดิพัทธ์) มีหน้าที่ดำเนินกิจการสถานธนานุบาลครอบครอง ดูแลรักษาจัดการเงินทุนทรัพย์สิน ตีราคาของ จ่ายเงิน รับจำนำของแก่ประชาชนทั่วไปในฐานเป็นผู้มีอาชีพและธุรกิจอันเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน จำเลยบังอาจกระทำผิดหน้าที่ของตนโดยทุจริต เจตนาเบียดบังเอาทรัพย์ของเทศบาลนครกรุงเทพที่จำเลยครอบครอง ดูแลจัดการนั้นเป็นของตนและบุคคลอื่น โดยจำเลยให้นางอารีย์พวกของจำเลยนำทองรูปพรรณเครื่องเพชรพลอยต่าง ๆ มาจำนำรวม 507 รายการ จำเลยตีราคาของเหล่านั้นโดยทุจริต สูงกว่าราคาประเมินอันจะพึงรับจำนำได้ทุกรายการรวมเป็นเงิน 1,300,000 บาท แล้วเบียดบังเอาเงินส่วนที่ตีราคาสูงกว่านี้ไว้เป็นของตนและผู้อื่น เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของเทศบาลนครกรุงเทพ เป็นเงิน 1,300,000 บาท ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352, 353, 354, 83, 90, 91 ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาเงิน 1,300,000 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยกระทำผิดดังฟ้อง ส่วนที่ขอให้ใช้หรือคืนเงินแก่ผู้เสียหายนั้น ของทั้ง 507 รายการยังมิได้นำออกขายทอดตลาด จึงไม่ทราบเงินที่ขาดไป โจทก์เสียหายมากน้อยเพียงใดยังไม่ปรากฏชัด บังคับให้จำเลยชดใช้ยังไม่ได้ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354 ให้จำคุก 3 ปี คำขอที่ให้คืนหรือใช้เงินนั้นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ไม่เชื่อว่าจำเลยกระทำโดยทุจริต พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยรับจำนำสิ่งของต่าง ๆ ไว้จากนางอารีย์รวม 507 รายการ ในราคาสูงกว่าปกติ และส่วนมากยังสูงกว่าราคาที่จำเลยรับจำนำจากลูกค้ารายอื่น ๆ จำเลยตีราคาสิ่งของให้นางอารีย์โดยไม่เคยปรึกษานายสถิตย์ผู้ช่วยผู้จัดการ นายสถิตย์เคยทักท้วงในเรื่องราคาสูง จำเลยก็ไม่ฟัง อ้างว่าจำเลยรับผิดชอบเอง นางอารีย์นำสิ่งของมาจำนำแทบทุกวัน ๆ ละหลาย ๆ ชิ้น ไม่มีลูกค้าคนอื่นนำสิ่งของไปจำนำมากชิ้นเหมือนนางอารีย์ สิ่งของบางชิ้นนางอารีย์ขอร้องให้จำเลยตีราคาให้สูง ๆ เพื่อเอาเงินไปชำระค่าดอกเบี้ยสิ่งของที่จำนำไว้และจะครบกำหนด ถ้าเอาของ 507 ชิ้นขายทอดตลาดขาดทุนหนึ่งล้านสามแสนบาท จำเลยก็ไม่สามารถจะใช้เงินที่ขาดให้เทศบาลนครกรุงเทพได้ และเมื่อจำเลยถูกจับแล้ว นางอารีย์มิได้มาชำระดอกเบี้ยหรือมาขอไถ่สิ่งของที่จำนำ หรือมาติดต่อใด ๆ กับสถานธนานุบาลเลย แสดงว่านางอารีย์จะปล่อยสิ่งของนั้นให้หลุดซึ่งหากว่ามีการขายทอดตลาดสิ่งของที่จำนำได้ราคาต่ำกว่าราคาที่จำนำเทศบาลนครกรุงเทพก็ต้องขาดทุน พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงชัดแจ้งว่าจำเลยกระทำผิดหน้าที่ของตนโดยทุจริต และทำให้เทศบาลนครกรุงเทพเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน
โดยที่สถานธนานุบาลหรือโรงรับจำนำเป็นธุรกิจอันเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน จำเลยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จัดการทรัพย์สินและธุรกิจนั้นของเทศบาลนครกรุงเทพ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354 ที่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องโจทก์นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น