โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างประจำ จำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะเกษียณอายุโดยไม่จ่ายค่าชดเชย ขอศาลพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันเลิกจ้างจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า เมื่อโจทก์ออกจากงานเพราะครบเกษียณอายุ จำเลยได้จ่ายเงินผลประโยชน์ตามระเบียบเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยให้แก่โจทก์ จำนวนเงินที่โจทก์ได้รับไปรวมค่าชดเชยตามกฎหมายที่โจทก์มีสิทธิได้รับอยู่ด้วยแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าชดเชยจากจำเลยอีก ขอให้พิพากษายกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า เงิน - ประโยชน์ หรือเงินบำเหน็จที่โจทก์ได้รับไปจากจำเลยตามระเบียบของจำเลยไม่รวมคลุมถึงค่าชดเชย จำเลยต้องจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์ พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันเลิกจ้างจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ระเบียบเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยว่า ด้วยแผนบำเหน็จรางวัล ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจ่าย เงิน - ประโยชน์เนื่องจากการปลดเกษียณไว้ว่า "นอกเสียจากบริษัท ฯ จะได้ตัดสินเป็นอย่างอื่นแล้วประโยชน์อันพึงได้รับตามแผนนี้จะต้องถูกหักด้วยเงินประเภทต่าง ๆ ซึ่งจะกล่าวถึงข้างล่างนี้ และการหักเงินเช่นว่านี้จะกระทำไปโดยไม่คำนึงถึงว่า ผู้รับประโยชน์จะเป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ เงินที่บริษัท ฯ ได้จ่ายไปตามกฎหมาย พระราชกฤษฎีกาหรือกฎข้อบังคับของรัฐบาล ว่าด้วยประโยชน์เนื่องจากทุพพลภาพเป็นการถาวรและโดยสิ้นเชิง หรือประโยชน์เนื่องจากการออกจากงานเพราะครบเกษียณอายุหรือมรณกรรม" ค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน เป็นเงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเมื่อเลิกจ้าง การออกจากงานเพราะเหตุเกษียณอายุก็เป็นการเลิกจ้างที่จะต้องจ่ายค่าชดเชยตามประกาศดังกล่าว เงินที่จำเลยจะต้องจ่ายให้ตามระเบียบว่าด้วยประโยชน์เนื่องจากการออกจากงานเพราะครบเกษียณอายุจึงหมายรวมถึงค่าชดเชยที่จำเลยจะต้องจ่ายแก่ลูกจ้างเมื่อเลิกจ้างเพราะเกษียณอายุด้วย เมื่อโจทก์ได้รับ เงิน - ประโยชน์ไปมีจำนวนมากกว่าค่าชดเชย เงินที่โจทก์ได้รับไปจึงมีค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน รวมอยู่ครบถ้วนแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าชดเชยจากจำเลยอีก
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง