โจทก์ฟ้องขอให้ยึดทรัพย์สินของจำเลยที่จำนองออกขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้จำนองและดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยได้ชำระหนี้ให้แก่โจทก์แล้วเป็นเงินจำนวน 133,876 บาท จำเลยคงเป็นหนี้โจทก์เพียง 58,624 บาทขอให้ศาลพิพากษาไปตามความเป็นจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยึดที่ดินที่จำนองออกขายทอดตลาดชำระหนี้จำนองเป็นเงิน 192,500 บาท และให้จำเลยชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1.25 บาทต่อเดือน จากต้นเงินจำนวน 110,000 บาทนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระหนี้เสร็จแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 2 จำเลยถึงแก่กรรมนางผวน ขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลอุทธรณ์ภาค 2 อนุญาต
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยไม่ต้องรับผิดดอกเบี้ยก่อนฟ้องให้โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหามาสู่ศาลฎีกาเพียงข้อเดียวว่าการชำระดอกเบี้ยจำต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ให้ยืมมาแสดงหรือไม่ เห็นว่า การชำระดอกเบี้ยไม่จำต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสอง จึงนำสืบพยานบุคคลว่าได้ชำระดอกเบี้ยแล้วได้
พิพากษายืน