โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๔๙๖ จำเลยขุดดินปิดทางเกวียนสาธารณะสำหรับประชาชนใช้สัญจรไปมาโดยไม่มีอำนาจ ครั้นวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๔๙๗ นายฉลองปลัดอำเภอ ได้สั่งให้จำเลยจัดการรื้อถอนรั้วและคันนาที่ปิดทางเกวียน อันเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายจำเลยทราบแล้วและยอมรับจะปฏิบัติใน ๓ วัน แต่จำเลยกลับขัดขืนไม่ทำตามคำสั่ง จึงขอให้ศาลลงโทษจำเลย
จำเลยต่อสู้ว่าที่ ๆ จำเลยปิดกั้นทำรั้วและคันนานั้นไม่ใช่ทางสาธารณะ และคำสั่งของนายฉลองก็ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว ตัดสินยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ตัดสินว่า จำเลยทำรั้วและคันนากั้นทางสาธารณะ ผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.๓๓๔ (๒) และ ๓๓๖ (๒) ให้รวมกระทงปรับ ๓๐ บาท ถ้าไม่เสียค่าปรับให้จัดการตามมาตรา ๑๘
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษาว่า จำเลยผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.๓๓๖ (๒) ส่วนเรื่องคำสั่งของนายฉลอง ปลัดอำเภอลงวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๔๙๗ ให้จำเลยปฏิบัติใน ๓ วันนั้น ศาลฎีกาเห็นฯว่าการนับเวลาต้องนับตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ ม.๑๕๘ ซึ่งต้องไม่นับวันแรกรวมเข้าด้วย เมื่อเจ้าพนักงานไปจับจำเลยเสียแต่วันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๔๙๗ จึงเป็นการจับก่อนถึงกำหนด ๑ วัน จะถือว่าจำเลยขัดคำสั่งยังไม่ได้ ในข้อหาข้อนี้ตัดสินให้ยกฟ้อง.