โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐, ๘๓, ๙๑, ๑๓๘, ๑๔๐, ๒๘๙(๒), ๓๓๙, ๓๔๐ ตรี, ๓๗๑ พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิ ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนจำนวน ๒๑,๐๐๐ บาท แก่เจ้าของ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๑๓๘ วรรคสอง, ๑๔๐ วรรคสาม, ๒๘๙ (๒) ประกอบด้วยมาตรา ๘๐, ๓๓๙ วรรคสอง, ๓๔๐ ตรี, ๓๗๑ พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๘ ทวิ วรรคหนึ่ง, ๗๒ วรรคสาม, ๗๒ ทวิ วรรคสอง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้จำคุก ๖ เดือน ความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุสมควรให้จำคุก ๖ เดือน ความผิดฐานชิงทรัพย์ให้จำคุก ๑๘ ปี ความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานให้จำคุกตลอดชีวิต เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกตลอดชีวิต ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนจำนวน ๒๑,๐๐๐ บาท แก่เจ้าของ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๗ พิพากษาแก้เป็นว่า เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกจำเลยมีกำหนด ๑๘ ปี ๑๒ เดือน ให้ยกฟ้องข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๘, ๑๔๐, ๒๘๙, ๘๐ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์อ้างคำให้การของนายหลงที่ซัดทอดจำเลยว่าร่วมกระทำความผิดด้วย ไม่ชอบที่ศาลจะรับฟัง เพราะขัดต่อประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๓๒ ซึ่งห้ามมิให้โจทก์อ้างจำเลยเป็นพยานนั้น เห็นว่า นายหลงมิได้เป็นจำเลยในคดีนี้ กรณีจึงมิต้องด้วยบทบัญญัติดังกล่าว พยานจำเลยซึ่งนำสืบอ้างฐานที่อยู่ไม่มีน้ำหนักรับฟังหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยร่วมเป็นคนร้ายชิงทรัพย์ในคดีนี้...
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๗.
นายวัส ติงสมิตร ผู้ตรวจ
นายสุมาศ อุดมจินดาสวัสดิ์ ย่อ
นายไพโรจน์ โรจน์อภิรักษ์กุล ตรวจ
นายเกษม เกษมปัญญา ผู้ช่วยฯ/ตรวจ