โจทก์ฟ้องว่า นายยอร์ชลูกจ้างของจำเลยขับรถยนต์บรรทุก ก.ท.บ. 6555 ตามทางการที่จ้างโดยประมาท ชนท้ายรถบรรทุก น.ฐ. 04229 ซึ่งจอดอยู่ ทำให้รถบรรทุก น.ฐ. 04229 กระแทกท้ายรถยนต์นั่ง ก.ท.ม. 5212 และรถยนต์นั่ง ก.ท.ม. 5212 กระแทกต่อไปชนท้ายรถยนต์บรรทุก น.ฐ. 01139 ซึ่งจอดเป็นคันหน้า เป็นเหตุให้นางสาวมยุรี บุตรโจทก์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิด เป็นเงิน 106,901 บาทแก่โจทก์
คดีอยู่ระหว่างจำเลยยื่นคำให้การแก้คดี โจทก์ยื่นคำร้องว่าเหตุที่นางสาวมยุรีต้องได้รับบาดเจ็บและเสียหายนี้ เกิดจากนายเสน่ห์ เกิดสนอง ลูกจ้างของนายปรีชา ศิริผ่องแผ้ว ได้ขับรถยนต์บรรทุก น.ฐ. 04229 ตามทางการที่จ้าง โดยประมาทด้วย ซึ่งนายปรีชา ศิริผ่องแผ้ว ได้ทำหนังสือรับรองความเสียหาย และยอมรับผิดในความเสียหาย เป็นการรับสภาพหนี้ โจทก์จึงขอเพิ่มเติมคำฟ้องเดิม โดยขอถือเอาข้อความตามคำร้องเป็นคำฟ้องเพิ่มเติม และขอให้ศาลหมายเรียกนายปรีชา ศิริผ่องแผ้ว เข้ามาเป็นจำเลยร่วม และมีคำพิพากษาบังคับให้ร่วมกับจำเลยชำระค่าเสียหายตามคำขอท้ายฟ้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต
จำเลยมิได้ยื่นคำให้การตามกำหนด โจทก์มิได้มีคำขอต่อศาลเพื่อให้มีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลย
จำเลยร่วมให้การปฏิเสธความรับผิดหลายประการ กับให้การด้วยว่าฟ้องโจทก์กับคำร้องแก้ไขฟ้องของโจทก์และคำร้องเรียกจำเลยร่วมเข้ามาเป็นจำเลยในคดีขาดอายุความฟ้องร้อง จำเลยร่วมไม่เคยรับสภาพหนี้และคำรับสภาพหนี้ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า คดีโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ เหตุละเมิดเกิดเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2512 โจทก์ฟ้องจำเลยวันที่ 5 มกราคม 2513 เนื่องจากวันที่ 4 มกราคม 2513 เป็นวันหยุดราชการ ถือว่าโจทก์ฟ้องจำเลยภายในกำหนดอายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคแรก แต่โจทก์ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้อง โดยขอให้ศาลหมายเรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีในฐานะเป็นจำเลยเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2513 เท่ากับโจทก์ฟ้องจำเลยร่วมในวันยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องนั่นเอง ซึ่งเกินกำหนด 1 ปีนับแต่วันเหตุละเมิดได้เกิดขึ้น และตามทางพิจารณาเชื่อได้ว่าโจทก์รู้ถึงการละเมิดในวันที่เกิดเหตุ และรู้ตัวจำเลยร่วมผู้จะพึงใช้ค่าสินไหมทดแทนหลังเกิดเหตุประมาณ 10 วัน เมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยร่วมในวันที่ 19 มิถุนายน 2513 ฟังได้ว่า โจทก์ฟ้องจำเลยร่วมเมื่อพ้นปีหนึ่งนับแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวจำเลยร่วมผู้จะพึงใช้ค่าสินไหมทดแทน คดีของโจทก์จึงขาดอายุความส่วนที่โจทก์อ้างว่าจำเลยร่วมทำหนังสือรับสภาพหนี้ตามเอกสารหมาย จ.43 ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นพิเศษ ต้องถืออายุความ 10 ปี นั้นได้พิเคราะห์แล้ว เอกสารหมาย จ.43 เป็นเพียงคำให้การเพิ่มเติมของจำเลยร่วมที่ให้ไว้ต่อพนักงานสอบสวนเท่านั้น ไม่ใช่เป็นการรับสภาพหนี้ตามสิทธิเรียกร้องซึ่งจำเลยร่วมกระทำต่อโจทก์ ถือไม่ได้ว่าเป็นการรับสภาพหนี้ดังโจทก์อ้าง กรณีจึงต้องถืออายุความ 1 ปีตามบทบัญญัติดังกล่าวแล้ว
พิพากษายืน