โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินที่กู้ไป ๙,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า ได้ชำระเงิน ๙,๐๐๐ บาทให้แก่นางสำอางค์ ภรรยาโจทก์แล้ว
คู่ความตกลงทำกันเป็นข้อแพ้ชนะว่า หากโจทก์นำนางสำอางค์ พร้อมเพรียง มาสาบานต่อหน้าศาลได้ว่ายังไม่ได้รับเงิน ๙,๐๐๐ บาท ตามที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นคดีนี้แล้ว จำเลยยอมแพ้คดี ถ้านางสำอางค์ไม่กล้าสาบาน โจทก์เป็นฝ่ายแพ้คดี ในวันนัดพร้อม นางสำอางค์ ภรรยาโจทก์ได้สาบานต่อหน้าศาลว่า ไม่ได้รับเงินตามจำนวนที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นคดีนี้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินต้น ๙,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ๗ ครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๑๔ (วันกู้ยืม) เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระเงินให้โจทก์เสร็จ ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความเห็นสมควรให้เป็นพับไป
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าทนายความในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยฎีกาว่าคำสาบานของนางสำอางค์ พร้อมเพรียง ไม่ตรงกับคำท้านั้น ปรากฏว่า ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นลงวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๗ ว่า นางสำอางค์ภรรยาโจทก์ได้สาบานต่อหน้าศาลว่า ไม่ได้รับเงินตามที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นคดีนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าคำสาบานของนางสำอางค์ พร้อมเพรียง ตรงตามคำท้าที่ตกลงกันแล้ว เพียงแต่ไม่ได้ระบุจำนวนเงิน ๙,๐๐๐ บาท ซึ่งตามคำฟ้องของโจทก์ได้บรรยายไว้ว่าจำเลยไม่ชำระเงิน ๙,๐๐๐ บาทตามสัญญาซึ่งกำหนดเวลาชำระไว้วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๑๔ ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
ที่จำเลยฎีกาว่า เรื่องดอกเบี้ยไม่อยู่ในประเด็นแห่งคำท้าและศาลวินิจฉัยให้จำเลยเสียดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๑๔ ซึ่งเป็นวันกู้ก็ไม่ถูกต้อง ที่ถูกต้องคิดแต่วันผิดนัด ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อนางสำอางค์ พร้อมเพรียง สาบานได้ตามคำท้า จำเลยยอมแพ้คดี จำเลยจึงต้องชดใช้ดอกเบี้ยตามฟ้องตามคำท้า ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน
(แผ้ว ศิวะบวร จันทร์ ระรวยทรง พยนต์ ยาวะประภาษ)