โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยประกอบการขนส่งประจำทางโดยใช้รถยนต์ส่วนบุคคล น้ำหนักรถ 1,200 กิโลกรัม ซึ่งไม่ใช่รถโดยสารประจำทางวิ่งรับส่งคนโดยสารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนไว้ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 23, 126พระราชบัญญัติ รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 21, 22, 60 พระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2527 มาตรา 7 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6)พ.ศ. 2526 มาตรา 4
จำเลยให้การรับสารภาพว่า ได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 23, 126 พระราชบัญญัติรถยนต์พ.ศ. 2522 มาตรา 21, 22, และ 60 ฐานประกอบการขนส่งประจำทางโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน จำคุก 1 ปี และปรับ 40,000 บาทฐานใช้รถอื่นนอกจากรถยนต์โดยสารประจำทางรับจ้างโดยสารเป็นรายตัวในทางที่ได้รับอนุญาตให้มีรถโดยสารประจำทางให้ปรับ 1,000 บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับข้อหาตามความผิดต่อพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 23, 126นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า รถยนต์จำเลยลักษณะนั่งสองแถวประเภทส่วนบุคคล ที่นั่ง 11 คน น้ำหนักรถ 1,200กิโลกรัม ตามเอกสารหมาย จ.2 พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2523 มาตรา 4 ให้ยกเลิกความในมาตรา5 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 และให้ใช้ความใหม่แทนมีผลว่า พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 12 คน รวมทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักรถไม่เกิน1,600 กิโลกรัม ด้วย ฉะนั้นรถยนต์จำเลยจึงเป็นรถที่ไม่อยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัตินี้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามข้อหาดังฟ้อง ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น"
พิพากษายืน.