โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 97, 102 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33, 49, 91 และริบเฮโรอีนและกระเป๋าของกลาง กับเพิ่มโทษจำเลยคืนเงิน 90 บาท ของกลางแก่เจ้าของ และสั่งห้ามจำเลยเสพยาเสพติดให้โทษ
จำเลย ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15, 66 วรรคแรก, 102ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ลงโทษฐานจำหน่ายเฮโรอีน จำคุก 5 ปีฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำคุก 7 ปี รวมโทษจำคุก12 ปี เพิ่มโทษกึ่งหนึ่งตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 97 เป็นจำคุก 18 ปี มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 12 ปี ริบเฮโรอีนและกระเป๋าสีดำคาดเอวของกลาง คืนธนบัตรจำนวน 90 บาท ของกลางแก่เจ้าของ ส่วนที่โจทก์ขอให้มีคำสั่งห้ามจำเลยเสพยาเสพติดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 49 นั้น ศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยถึง 12 ปี เป็นระยะเวลานาน ซึ่งจำเลยไม่มีโอกาสเสพยาติดในขณะที่ต้องโทษจำคุก จึงให้ยกคำขอ
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66 วรรคแรกจำคุก 5 ปี แต่มีเหตุเพิ่มโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 91 กึ่งหนึ่ง และลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 หนึ่งในสาม ปรากฏว่าโทษส่วนที่จะเพิ่มและส่วนที่จะลดเท่ากันจึงไม่เพิ่มไม่ลดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 54 และให้ยกฟ้องโจทก์ในความผิดฐานอื่น นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ และ จำเลย ฎีกา
ปัญหาตามฎีกาโจทก์ว่า จำเลยกระทำความผิดฐานจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทเฮโรอีนหรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า พยานโจทก์ไม่พอฟังลงโทษจำเลย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น สำหรับฎีกาของจำเลยซึ่งฎีกาในข้อหามีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายนั้นศาลฎีกาเห็นว่าเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่งจึงไม่รับวินิจฉัย แต่ที่ศาลอุทธรณ์เพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 91 กึ่งหนึ่ง และลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม แต่เห็นว่าโทษส่วนที่จะเพิ่มและส่วนที่จะลดเท่ากัน จึงไม่เพิ่มไม่ลดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 54 นั้นยังไม่ถูกต้อง กรณีต้องเพิ่มโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 97 และคำว่าส่วนของการเพิ่มและส่วนของการลดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 54 นั้น มิได้หมายถึงจำนวนของโทษที่คิดคำนวณแล้ว แต่เป็นส่วนที่ยังไม่ได้คิดคำนวณในกรณีนี้ส่วนของการเพิ่มคือกึ่งหนึ่ง ส่วนของการลดคือหนึ่งในสามดังนั้นส่วนของการเพิ่มจึงมากกว่าส่วนของการลด และศาลเห็นสมควรไม่เพิ่มไม่ลดก็ได้ จึงเห็นสมควรแก้เสียให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 97 และส่วนของการเพิ่มมากกว่าส่วนของการลด ศาลเห็นสมควรไม่เพิ่มไม่ลดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 54 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์