คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้พร้อมดอกเบี้ยตามกฎหมาย จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 14,000 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของจำเลยออกขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดเป็นครั้งที่ 5 ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2532 โจทก์เป็นผู้เสนอราคาสูงสุด 32,000 บาท ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายได้โจทก์ในฐานะผู้ซื้อได้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินดังกล่าวกับเจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ขายแล้ว ต่อมาวันที่ 31 กรกฎาคม 2532 จำเลยยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า ทรัพย์ที่ขายทอดตลาดเป็นอสังหาริมทรัพย์ยังมิได้ทำนิติกรรมจดทะเบียนซื้อขายต่อพนักงานเจ้าหน้าที่จำเลยชอบที่จะขอไถ่คืนทรัพย์ที่ขายได้ ซึ่งก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวแก่โจทก์ จำเลยได้ชำระเงินตามคำพิพากษาบางส่วนแล้วเป็นเงิน 12,000 บาท และโจทก์ได้ขอรับไปจากศาลชั้นต้นแล้วเป็นเงิน 5,000 บาท โจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตมาขอให้ขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยเพื่อต้องการที่ดินเป็นของตน ขอให้ศาลอนุญาตให้จำเลยไถ่ที่ดินคืนและเพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าว โดยจำเลยขอชำระหนี้ตามคำพิพากษาพร้อมค่าฤชาธรรมเนียมแก่โจทก์จนครบ
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า การขายทอดตลาดบริบูรณ์แล้ว ให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "...จำเลยอ้างเหตุอีกประการหนึ่งว่าศาลชั้นต้นได้ตั้งให้จ่าศาลเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดี รองจ่าศาลจึงไม่มีอำนาจบังคับคดีแทนปัญหานี้แม้ไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนเห็นควรรับวินิจฉัยให้ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 1(14) บัญญัติว่า "เจ้าพนักงานบังคับคดี"หมายความว่า เจ้าพนักงานศาลหรือพนักงานอื่นผู้มีอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ใช้อยู่ ในอันที่จะปฏิบัติตามวิธีการที่บัญญัติไว้ในภาค 4 แห่งประมวลกฎหมายนี้ เพื่อคุ้มครองสิทธิของคู่ความในระหว่างการพิจารณาหรือเพื่อบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง"รองจ่าศาลเป็นเจ้าพนักงานศาลซึ่งเป็นตำแหน่งรองจากจ่าศาล จึงมีอำนาจบังคับคดีได้ คดีนี้แม้หมายบังคับคดีจะระบุให้จ่าศาลเป็นเจ้าพนักงานบังคับคดีก็หาใช่ว่าจะต้องเป็นอำนาจโดยเฉพาะเจาะจงของจ่าศาลแต่ผู้เดียวไม่ จ่าศาลย่อมมอบอำนาจให้รองจ่าศาลซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาดำเนินการแทนได้ ดังนั้น เมื่อคดีนี้ปรากฏว่าจ่าศาลได้มอบให้รองจ่าศาลเป็นผู้ดำเนินการแทนรองจ่าศาลจึงมีอำนาจบังคับคดีได้ จำเลยอ้างเหตุประการสุดท้ายว่า การขายทอดตลาดที่ดินซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์เมื่อยังไม่ได้จดทะเบียนการโอนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่การขายทอดตลาดก็ยังไม่บริบูรณ์ต้องให้จำเลยไถ่ที่ดินคืนนั้น เห็นว่าการขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าว เมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ขายแก่โจทก์ผู้ซื้อแล้ว ต้องถือว่าการขายทอดตลาดเป็นอันสมบูรณ์ แม้โจทก์จะยังไม่ได้จดทะเบียนการโอนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ตาม ส่วนการจะให้จำเลยซื้อที่ดินคืนหรือไม่ย่อมเป็นสิทธิของโจทก์ จำเลยจะมาร้องขอให้ศาลอนุญาตให้จำเลยไถ่คืนที่ดินและเพิกถอนการขายทอดตลาดที่เสร็จบริบูรณ์ไปแล้วนั้นไม่ได้..."