คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2456/2530

เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมจำเลยกับ อ. ในข้อหามีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีน อ. ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงตาย เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดอาวุธปืนดังกล่าว ซึ่งเป็นปืนมีทะเบียนพร้อมกระสุน 4 นัดและปลอกกระสุนปืน 1 ปลอกเป็นของกลาง เมื่อ อ. ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงตาย สิทธินำคดีอาญามาฟ้อง อ. ย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39และโทษย่อมระงับไปด้วยความตายของผู้กระทำผิดตาม ป.อ. มาตรา 38จึงไม่อาจริบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวได้.

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ และขอให้ริบของกลาง

จำเลยให้การรับสารภาพในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯและให้การปฏิเสธในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ลงโทษจำคุกตลอดชีวิตริบเฮโรอีน ผ้าใบของกลาง อาวุธปืนสั้นขนาด .38 จำนวน1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 4 นัด และปลอกกระสุนปืน 1 ปลอกซึ่งนายเอนกหรือพิชาย สินวังใช้ยิงเจ้าพนักงาน ส่วนอาวุธปืนพกสั้นขนาด 7.65 และเครื่องกระสุนปืน 5 นัดเป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายจึงไม่ริบ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ริบอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 4 นัด ปลอกกระสุนปืน 1 ปลอก ที่นายเอนกหรือพิชาย สินวัง ใช้ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ปรากฏจากคำเบิกความของร้อยตำรวจเอกจีระศักดิ์วิเชียรโชติ เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุมจำเลยว่า อาวุธปืนดังกล่าวมีทะเบียน เมื่อนายเอนกหรือพิชาย สินวัง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงตายสิทธินำคดีอาญามาฟ้องนายเอนกหรือพิชาย สินวัง ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 และโทษย่อมระงับไปด้วยความตายของผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 38 จึงไม่อาจริบอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ปืนดังกล่าวได้ และปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้คืนอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอกกระสุน 4 นัด ปลอกกระสุนปืน 1 ปลอกแก่เจ้าของ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์".