โจทก์ฟ้องและแก้ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 277, 283 ทวิ, 317
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคหนึ่งและวรรคสาม, 283 ทวิ วรรคสอง (เดิม), 283 ทวิ วรรคสอง, 317 วรรคสาม (เดิม), 317 วรรคสาม การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ขณะกระทำความผิดจำเลยมีอายุ 18 ปีเศษ ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 ฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร จำคุกกระทงละ 2 ปี 6 เดือน รวม 3 กระทง เป็นจำคุก 6 ปี 18 เดือน ฐานพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร กับฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นยินยอม เป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นยินยอม ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกกระทงละ 3 ปี 6 เดือน รวม 3 กระทง เป็นจำคุก 9 ปี 18 เดือน ฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นยินยอมอีก 1 กระทง จำคุก 3 ปี 6 เดือน และฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตน โดยเด็กนั้นยินยอม 2 กระทง จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 4 ปี รวมโทษทุกกระทงแล้วเป็นจำคุก 22 ปี 42 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 11 ปี 21 เดือน ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับความผิดข้อหาพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจารตามฟ้อง ข้อ 1.5 และความผิดข้อหาพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจารตามฟ้อง ข้อ 1.6 ด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยคงให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น คือฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317 วรรคสาม 2 กระทง เมื่อลดมาตราส่วนโทษกระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 และลดโทษให้อีกกระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงจำคุกกระทงละ 1 ปี 3 เดือน รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 2 ปี 6 เดือน ฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคสาม 4 กระทง ลดมาตราส่วนโทษกระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 และลดโทษให้อีกกระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงจำคุกกระทงละ 1 ปี 9 เดือน รวม 4 กระทง เป็นจำคุก 4 ปี 36 เดือน ฐานกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคหนึ่ง 2 กระทง ลดมาตราส่วนโทษกระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 และลดโทษอีกกระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงจำคุกกระทงละ 1 ปี รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 2 ปี รวมโทษทุกกระทงแล้วเป็นจำคุก 8 ปี 42 เดือน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า เด็กหญิง ช. ผู้เสียหายที่ 1 เกิดวันที่ 7 พฤษภาคม 2547 ขณะเกิดเหตุตามฟ้อง ในวันที่ 13 และ 23 มีนาคม 2560 วันที่ 20 เมษายน 2560 และวันที่ 4 พฤษภาคม 2560 ผู้เสียหายที่ 1 มีอายุ 12 ปีเศษ และขณะเกิดเหตุตามฟ้อง ในวันที่ 8