โจทก์ฟ้องว่า จำเลยค้างชำระค่ากระแสไฟฟ้าอยู่จำนวน 5,642 หน่วยหน่วยละ 1.5953 บาท รวมเป็นเงิน 9,000.68 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าว พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า คดีโจทก์ขาดอายุความประเด็นอื่นไม่จำต้องวินิจฉัย พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ แต่ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "มีปัญหาจะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำหรือไม่ ในปัญหานี้ ปรากฏว่าโจทก์เคยฟ้องจำเลยให้ชำระหนี้ค่ากระแสไฟฟ้าพร้อมดอกเบี้ยซึ่งเป็นมูลหนี้อย่างเดียวกันนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว ตามคดีของศาลชั้นต้นหมายเลขดำที่ 168/2527 คดีหมายเลขแดงที่ 640/2527 และจำเลยให้การแก้คดีไว้แล้ว ระหว่างนัดสืบพยานโจทก์ในคดีก่อน โจทก์ยื่นคำร้องว่าโจทก์ไม่มีความประสงค์จะดำเนินคดีนี้กับจำเลยอีกต่อไป จึงขออนุญาตให้ถอนฟ้องคดีนี้ ดังคำร้องลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2530 จำเลยได้รับสำเนาแล้วแถลงไม่คัดค้าน ศาลชั้นต้นจึงอนุญาตให้ถอนฟ้อง ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2530 ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้ในคดีก่อนโจทก์ยื่นคำร้องว่า โจทก์ไม่มีความประสงค์จะดำเนินคดีกับจำเลยอีกต่อไป ก็มีความหมายว่า ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีกับจำเลยสำหรับคดีนั้นเท่านั้น หาอาจแปลไปว่าโจทก์จะไม่ฟ้องคดีใหม่กับจำเลยอีก ทั้งมิใช่เป็นการถอนฟ้องตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังนั้น การถอนฟ้องในคดีก่อนไม่ทำให้อำนาจฟ้องของโจทก์หมดไปโจทก์จึงฟ้องคดีนี้ใหม่ได้ภายในอายุความที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์นำคดีมาฟ้องจำเลยอีกไม่ได้ ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาฎีกาโจทก์ฟังขึ้น
สำหรับปัญหาข้ออื่นซึ่งศาลชั้นต้นกำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ได้แก่เรื่องอำนาจฟ้อง ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ จำเลยค้างค่ากระแสไฟฟ้า และโจทก์มีสิทธิเรียกค่ากระแสไฟฟ้าจากจำเลยตามฟ้องหรือไม่ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยังมิได้วินิจฉัย ศาลฎีกาเห็นสมควรย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยต่อไป"
พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยในประเด็นที่ยังเหลืออยู่แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี