โจทก์ฟ้องว่า เมื่อ พ.ศ. 2484 โจทก์ถูกทางราชการจำกัดเขตเพราะเป็นคนต่างด้าว จึงเอาเงินของจำเลยไป 20 บาท แล้วมอบที่สวนพิพาทให้จำเลยครอบครอง โดยตกลงกันปากเปล่าว่า ถ้าโจทก์มีโอกาสกลับมาอยู่ในเขตจังหวัดปราจีนบุรีอีกเมื่อใด จำเลยยอมคืนสวนให้เมื่อโจทก์ยอมชำระเงิน 20 บาทให้ ต่อมา พ.ศ. 2488 โจทก์นำเงิน20 บาทไปคืนจำเลย ๆ ไม่ยอมคืนสวน จึงขอให้ศาลว่าสวนพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ และให้จำเลยรับเงิน 20 บาท
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เป็นการซื้อขายขาดจึงเป็นโมฆะ ใช้ไม่ได้พิพากษากลับให้จำเลยรับเงิน 20 บาท และคืนสวนให้โจทก์
จำเลยฎีกาคัดค้านในข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อปรากฏว่าที่สวนรายนี้เป็นที่ดินซึ่งทำประโยชน์ โจทก์ได้ครอบครองหวงแหนถืออำนาจเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์มาแล้ว มาขายให้จำเลยโดยมิได้ทำหนังสือสัญญาต่อเจ้าพนักงานจำเลยครอบครองมาเพียง 6 ปี ยังหาครบ 10 ปี ตามมาตรา 1382 ไม่โจทก์ยังไม่ขาดกรรมสิทธิ์ จึงพิพากษายืน