ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ในเคหะสถาน แม้ผู้เฝ้าบ้านชวนลักทรัพย์ แต่หากมิได้รับอนุญาตเข้าห้องเก็บทรัพย์ ถือเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหะสถาน
เจ้าทรัพย์ให้จำเลยเฝ้าบ้านแต่ห้องเก็บทรัพย์เจ้าทรัพย์ใส่กุญแจไว้ จำเลยชวนผู้อื่นมาทำการลักทรัพย์โดยใช้เชือกคล้องถอดหน้าต่างให้เปิดออก แล้วปีนป่ายเขาทางช่องหน้าต่าง ซึ่งมิใช่ช่องทางสำหรับให้คนไปมา และลักทรัพย์ในห้องเก็บทรัพย์ ดังนี้ ถือได้ว่ เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้จำเลยเข้าไปในห้องเก็บทรัพย์ ซึ่งจำเลยสมคบกันเข้าไปทำการลักจำเลยจึงย่อมมีความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานตามมาตรา 255(1) ด้วย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 294 (1) แม้จะมิได้บรรยายคำว่า "เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้เข้าไป" ไว้ด้วยก็ดี แต่เมื่ออ่านข้อความตามฟ้องประกอบกันทั้งหมดแล้ว ก็พอเข้าใจได้ว่าห้องเรือนอันเป็นทีอยู่อาศัย (เคหะสถาน)ของเจ้าทรัพย์ ซึ่งจำเลยสมคบกันเข้าไปทำการลักทรัพย์ เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้จำเลยเข้าไปได้ ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 แล้ว
ฟ้องของโจทก์กล่าวในครั้งแรกว่า จำเลยบังอาจเข้าไปโดยใช้เชือก คล้อง(ถอด) กลอนหน้าต่างให้เปิดออก แล้วปีนป่ายเข้าไปในทางช่องหน้าต่างอันมิใช่ช่องทางสำหรับคนไปมา และในครั้งหลังต่อต่อมาก็ว่า บังอาจเข้าไปในห้องเก็บทรัพย์นี้ โดยปีนป่ายเข้าไปทางช่องหน้าต่าง อันมิใช่างสำหรับให้คนไปมาเช่นกัน ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่า ถ้าเป็นการเข้าไปโดยได้รับอนุญาต ก็คงไม่ต้องบังอาจปีนป่ายเข้าทางช่องทางหน้าต่างเช่นนั้น จึงพอเข้าใจได้ว่าเป็นการเข้าไปในโดยมิได้รับอนุญาต ฟ้องจึงสมบูรณ์พอเพียงตามความประสงค์ของป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 แล้วว่า ฟ้องโจทก์หาว่า จำเลยสมคบกันลักทรัพย์ในเคหะสถานตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 294(1)
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2495