โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ตกลงเปิดเล็ตเตอร์ออฟเครดิตชนิดเพิกถอนไม่ได้รวม 10 ฉบับ ให้แก่บริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัด โดยจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้จัดการเพื่อสั่งซื้อสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นจำเลยที่ 1 ยอมผูกพันตนเข้าค้ำประกันและโจทก์ได้ชำระเงินไปแล้วแต่บริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัด ไม่สามารถชำระเงินค่าสินค้าให้โจทก์ได้จึงทำสัญญาทรัสต์รีซีท รวม 11 ฉบับ และออกตั๋วสัญญาใช้เงินรวม 2 ฉบับให้แก่โจทก์ จำเลยทั้งสองได้นำที่ดินโฉนดเลขที่ 10700, 41021 และโฉนดเลขที่ 2893 พร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างมาจดทะเบียนจำนองไว้เป็นประกันหนี้ของบริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัด แต่บริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัดผิดนัดไม่ชำระหนี้ให้โจทก์ ต่อมาเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2528จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้จัดการบริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัด และฐานะส่วนตัวได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้และร่วมรับผิดชดใช้หนี้สินให้แก่โจทก์โดยยอมรับว่า จำเลยมีหนี้สินค้างกับโจทก์ตามสัญญาทรัสต์รีซีท 11 ฉบับ เป็นเงิน 6,628,794.73 บาท หนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน 2 ฉบับเป็นเงิน 2,243,954.15 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 8,872,748.88 บาท และยอมเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ19 ต่อปีนับแต่วันทำหนังสือรับสภาพหนี้ไปจนกว่าจะชำระหนี้เสร็จให้โจทก์ โดยตกลงจะผ่อนชำระเงินให้โจทก์กับให้นำทรัพย์สินที่จดทะเบียนจำนองไว้แก่โจทก์แต่เดิมนั้นเป็นหลักประกันตามสัญญานี้ด้วย จำเลยที่ 1 ยังได้ทำสัญญาค้ำประกันการชำระหนี้โดยยอมรับผิดอย่างเป็นลูกหนี้ร่วมอีกด้วย หลังจากทำหนังสือรับสภาพหนี้แล้วไม่มีการชำระเงินให้โจทก์เลย โจทก์จึงมีหนังสือทวงถามให้จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้ค้ำประกันชำระหนี้ และได้บอกกล่าวบังคับจำนองให้จำเลยทั้งสองทราบโดยชอบแล้วแต่จำเลยทั้งสองเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยที่ 1 ชำระเงิน12,079,312.13 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีจากต้นเงิน 8,126,607.35 บาท นับจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จให้โจทก์ ให้จำเลยที่ 2 ชำระเงิน 1,188,646.58 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี จากต้นเงิน 640,000 บาท นับจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเงินเสร็จให้โจทก์ ถ้าจำเลยทั้งสองไม่ชำระหนี้ให้นำที่ดินโฉนดเลขที่ 10700, 41021 ตำบลบางบอนอำเภอบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร และที่ดินโฉนดเลขที่ 2893ตำบลหนองยาว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี ออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้โจทก์ ถ้าได้เงินไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองชำระหนี้ให้โจทก์จนครบ
จำเลยทั้งสองให้การว่า คำขอเปิดเล็ตเตอร์ออฟเครดิตชนิดเพิกถอนไม่ได้ ไล่เบี้ยเอาจากบริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัดผู้สั่งจ่ายไม่ได้ ดังนั้นจำเลยที่ 1 ในฐานะเป็นผู้ค้ำประกันบริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัด จึงไม่ต้องรับผิดบริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัด ชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนแล้วแต่ภายหลังมิได้ชำระหนี้ส่วนอื่นให้โจทก์อีกเพราะถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดเพราะมิใช่ผู้ผิดนัด จำเลยที่ 1 ไม่ได้มีนิติสัมพันธ์กับนิติบุคคลต่าง ๆที่ขายสินค้าให้ตามเอกสารท้ายฟ้อง จำเลยทั้งสองได้นำที่ดินโฉนดตามฟ้องพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างมาจดทะเบียนจำนองเป็นประกันการชำระหนี้ของบริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัด ไว้แก่โจทก์นั้นเมื่อบริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัด ได้ชำระหนี้ให้โจทก์ครบถ้วนแล้วจำเลยทั้งสองไม่ต้องไถ่ถอนจำนองที่ดินแปลงดังกล่าวจากโจทก์โจทก์จึงไม่สามารถบังคับจำนองและเรียกดอกเบี้ยจากจำเลยทั้งสองได้การจำนองที่ดินโฉนดดังกล่าวมิได้เป็นการจำนองประกันหนี้ในมูลหนี้ตามหนังสือสัญญาทรัสต์รีซีท 11 ฉบับและตั๋วสัญญาใช้เงิน 2 ฉบับตามฟ้อง เพราะในขณะทำสัญญาจำนองที่ดินเป็นประกันหนี้เมื่อวันที่25 กุมภาพันธ์ 2526 และวันที่ 1 มีนาคม 2526 นั้นบริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัด และจำเลยที่ 1 ยังมิได้เป็นหนี้โจทก์ตามหนังสือสัญญาทรัสต์รีซีท 11 ฉบับและตามตั๋วสัญญาใช้เงิน 2 ฉบับตามฟ้อง ฟ้องโจทก์ตามหนังสือเล็ตเตอร์ออฟเครดิต 10 ฉบับซึ่งระบุว่าได้จัดการงานแทนบริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัดโดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้ค้ำประกันนั้น โจทก์มิได้ฟ้องเรียกร้องให้ชำระหนี้ภายในกำหนด 2 ปี นับแต่วันที่โจทก์ได้ออกเงินทดรองไปก่อนฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ จำเลยที่ 1 มิได้ทำหนังสือสัญญากับนายเลอศักดิ์ จุลเทศ โจทก์มิได้มอบอำนาจให้นายเลอศักดิ์จุลเทศ เป็นผู้รับสัญญาตามหนังสือรับสภาพหนี้นั้นกับบริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัด และหรือจำเลยที่ 1 ด้วย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน 12,079,312.13 บาทและเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี จากต้นเงิน 8,126,607.35 บาทนับแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2531 ซึ่งเป็นวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยที่ 1 จะชำระเงินเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยที่ 2 ชำระเงิน640,000 บาท และเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 17.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2528 ถึงวันฟ้อง และในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีนับแต่วันถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจำเลยที่ 2 จะชำระเงินเสร็จแก่โจทก์ถ้าจำเลยทั้งสองไม่ชำระให้นำที่ดินที่จำนองไว้ออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้โจทก์ หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองมาขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์จนครบ จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ประเด็นข้อสองที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่าหนังสือรับสภาพหนี้เอกสารหมาย จ.4 ใช้บังคับไม่ได้เพราะโจทก์มิได้มอบอำนาจให้นายเลอศักดิ์ จุลเทศ มาเป็นคู่สัญญาแทนโจทก์นั้นเห็นว่า หนังสือรับสภาพหนี้เป็นหนังสือที่ลูกหนี้ทำขึ้นโดยยอมรับว่าตนเป็นหนี้เจ้าหนี้จริง ส่วนเจ้าหนี้หากจำเป็นต้องมาเป็นคู่สัญญาหรือมอบอำนาจให้บุคคลใดมาเป็นคู่สัญญาแทนไม่ เมื่อหนังสือรับสภาพหนี้เอกสารหมาย จ.4 เป็นหนังสือที่บริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัด ทำขึ้นโดยยอมรับว่าตนเป็นหนี้โจทก์ตามฟ้องจริง หนังสือรับสภาพหนี้ดังกล่าวจึงใช้บังคับได้ โดยโจทก์ไม่จำต้องมอบอำนาจให้นายเลอศักดิ์เป็นคู่สัญญาแทนดังที่จำเลยทั้งสองฎีกาแต่อย่างใด ส่วนที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่าเล็ตเตอร์ออฟเครดิตที่โจทก์ฟ้องบางฉบับไม่ติดอากรแสตมป์ บางฉบับติดไม่ครบ จึงรับฟังเป็นพยานหลักฐานไม่ได้นั้น เห็นว่า โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองให้รับผิดตามสัญญาค้ำประกันและสัญญาจำนองเป็นประกันหนี้ของบริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัด มิได้ฟ้องเรียกหนี้ตามเล็ตเตอร์ออฟเครดิต จำเลยทั้งสองก็มิได้ปฏิเสธว่าบริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัด มิได้เปิดเล็ตเตอร์ออฟเครดิตกับโจทก์จึงถือได้ว่าจำเลยทั้งสองรับข้อเท็จจริงนั้นแล้ว คดีไม่จำต้องอาศัยพยานหลักฐานอื่นอีก เล็ตเตอร์ออฟเครดิตจะปิดอากรแสตมป์หรือไม่จึงไม่ทำให้ผลวินิจฉัยคดีเปลี่ยนแปลง เมื่อบริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัด ได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้ไว้แก่โจทก์จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันและจำนองค้ำประกันหนี้ดังกล่าวจึงต้องรับผิดต่อโจทก์
ประเด็นข้อที่สามมีว่า คดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่จำเลยทั้งสองฎีกาว่า การที่โจทก์ใช้เงินตามเล็ตเตอร์ออฟเครดิตแทนบริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัด เป็นการรับจ้างทำการงานและออกเงินทดรองแทนบริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัด คดีจึงมีอายุความ2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(8) เดิม(มาตรา 193/34(8) ที่แก้ไขใหม่) นั้น เห็นว่า โจทก์มิได้เป็นลูกจ้างของบริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัด ที่โจทก์ใช้เงินแทนบริษัทดังกล่าวไปก็เป็นการชำระตามข้อผูกพันในสัญญาที่บริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัด ขอให้โจทก์เปิดเล็ตเตอร์ออฟเครดิตเพื่อสั่งซื้อสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นให้ กรณีจึงมิใช่เรื่องที่ลูกจ้างเรียกเอาเงินที่ได้ออกทดรองไปก่อนแล้วผู้ว่าจ้างดังที่จำเลยทั้งสองฎีกา จะนำอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165(8) เดิม มาใช้บังคับมิได้ และหนี้ตามสัญญาเล็ตเตอร์ออฟเครดิตไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้โดยเฉพาะจึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 เดิมคดีนี้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า บริษัทสยามฟาร์มมิ่ง จำกัดทำหนังสือรับสภาพหนี้ให้แก่โจทก์เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2528ซึ่งทำให้อายุความสะดุดหยุดลง และเริ่มนับใหม่ โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2531 ยังไม่เกิน 10 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ"
พิพากษายืน