โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เหล็กท่อนขนาดกว้าง3.5 เซนติเมตร ยาว 50 เซนติเมตร ตีศีรษะและแขนผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่า แต่ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตาย เพียงแต่ได้รับอันตรายสาหัส ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 83, 288และริบของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 83, 288 และริบของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297(8), 83 จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 6 เดือน คำให้การชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนของจำเลยทั้งสองเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 8 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 4 เดือนข้อหาอื่นให้ยก ริบของกลาง
โจทก์และจำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 80 และ 83 จำคุกคนละ12 ปี คำให้การชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนของจำเลยทั้งสองเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกคนละ 8 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาตามที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่าจำเลยทั้งสองจะมีความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้เสียหายหรือไม่เห็นว่าตามพฤติการณ์ของจำเลยที่ 2 ที่ถีบผู้เสียหายล้มลงผู้เสียหายลุกหนีไม่ทันจึงต้องยกแขนซ้ายขึ้นรับขณะถูกจำเลยที่ 1 ตี จำเลยที่ 2 จึงเป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 ทำร้ายผู้เสียหายและท่อเหล็กของกลางขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3.5 เซนติเมตร ยาว 50เซนติเมตร ที่จำเลยที่ 1 ใช้ตีผู้เสียหายที่ศีรษะหลายที มีบาดแผลฉีกขาดที่ศีรษะด้านซ้ายยาว 5 เซนติเมตร ลึก 0.5 เซนติเมตรซึ่งแพทย์ผู้ตรวจชันสูตรบาดแผลของผู้เสียหายเบิกความเป็นพยานโจทก์ว่า ไม่ทำให้ถึงแก่ความตายและกะโหลกศีรษะไม่แตก แสดงว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้ตีโดยแรงเมื่อผู้เสียหายล้มลงครั้งหลังและมุดศีรษะลงใต้รถเข็น แม้จำเลยที่ 1 จะลากขาผู้เสียหายเพื่อให้ออกมาแต่มีคนร้องห้ามจำเลยที่ 1 ก็หยุด แสดงว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.