ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลายื่นฎีกาและการพิจารณาคำสั่งศาลชั้นต้นที่เกี่ยวข้องกับฎีกา
การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นกำหนดระยะเวลายื่นฎีกาให้แก่โจทก์ภายหลังจากพ้นกำหนดระยะเวลาที่อาจยื่นฎีกาได้แล้วนั้นเป็นเรื่องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกา การขอขยายระยะเวลายื่นฎีกา เป็นอำนาจของศาลชั้นต้นที่จะพิจารณาและมีคำสั่งไปตามบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.พ. มาตรา 23 ประกอบด้วยป.วิ.อ. มาตรา 15 และไม่ว่าโจทก์จะยื่นฎีกามาด้วยหรือไม่ก็ตามก็ไม่จำเป็นที่ศาลชั้นต้นจะต้องพิจารณาไปถึงเนื้อหาแห่งคำฟ้องฎีกานั้นด้วย เพราะยังมิใช่ขั้นตอนจะมีคำสั่งรับหรือไม่รับฎีกาคำสั่งของศาลชั้นต้นในกรณีเช่นนี้จึงมิใช่คำสั่งในเรื่องเกี่ยวเนื่องกับการที่จะรับหรือไม่รับฎีกา เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของโจทก์ดังกล่าว จึงมิใช่กรณีที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 223 โจทก์ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อศาลอุทธรณ์ได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 193วรรคแรก มิใช่อุทธรณ์ต่อศาลฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 224 วรรคแรกที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์และพิพากษายกอุทธรณ์เสียนั้นไม่ชอบ แต่ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยปัญหาที่ว่ามีเหตุอันควรขยายระยะเวลายื่นฎีกาให้โจทก์หรือไม่ไปเลยโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาและพิพากษาใหม่ โจทก์มีสิทธิฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันอ่านหรือถือว่าได้อ่านคำพิพากษานั้นให้โจทก์ฟังตาม ป.วิ.อ. มาตรา 216 วรรคแรก ซึ่งโจทก์ก็ได้ยื่นฎีกาต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนดไว้แล้ว หากโจทก์ประสงค์จะแก้ไขหรือเพิ่มเติมฎีกาของโจทก์นอกเหนือจากที่ฎีกาไว้เดิม โจทก์ก็ชอบที่จะร้องขอภายในกำหนดระยะเวลาที่ให้ยื่นฎีกา จะมายื่นฎีกาใหม่หลังจากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวหาได้ไม่ เมื่อโจทก์เพิ่งยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นกำหนดระยะเวลายื่นฎีกาให้แก่โจทก์ ซึ่งเท่ากับขอขยายระยะเวลาฎีกาภายหลังจากระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามกฎหมายสิ้นไปแล้วโดยไม่ปรากฏว่ามีพฤติการณ์พิเศษหรือมีเหตุสุดวิสัยอย่างใด กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะขยายระยะเวลายื่นฎีกาให้โจทก์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23ประกอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 15. (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2534)