ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการเปลี่ยนแปลงฐานะจากผู้ครอบครองแทนเป็นผู้ครอบครองเพื่อตนเอง ทำให้สิทธิครอบครองเดิมสิ้นสุด
จำเลยขายฝากที่พิพาทไว้กับโจทก์ แต่ไม่ไถ่คืนภายในกำหนด จำเลยเช่าที่พิพาทจากโจทก์ จำเลยย่อมได้ชื่อว่ายึดถือครอบครองที่พิพาทในนามของโจทก์อยู่ในฐานะเป็นผู้แทนโจทก์
โจทก์ให้คนไปเก็บค่าเช่าที่พิพาทจากจำเลยในเดือนมกราคม 2505 จำเลยไม่ให้ อ้างว่าไถ่นาคืนจากโจทก์แล้ว เห็นได้ว่าจำเลยได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์แล้ว การยึดถือครอบครองที่พิพาทได้เปลี่ยนลักษณะจากการยึดถือครอบครองแทน เป็นยึดถือครอบครองเพื่อตนเองเป็นปรปักษ์ต่อโจทก์ เข้าลักษณะแย่งการครอบครอง
โจทก์ทราบว่าจำเลยแย่งการครอบครองที่พิพาทเมื่อเดือนมกราคม 2505 โจทก์มาฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2506 เป็นเวลาเกิน 1 ปีแล้ว โจทก์ย่อมหมดสิทธิที่จะฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองได้ ที่พิพาทตกเป็นสิทธิของจำเลยแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะเรียกเอาคืนได้
จำเลยให้การต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าจำเลยครอบครองเกิน 1 ปีแล้ว ฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ เช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยได้อ้างสิทธิครอบครองขึ้นเป็นข้อต่อสู้แล้ว แม้จะถือว่าข้อต่อสู้ของจำเลยไม่ชัดแจ้งในเรื่องแย่งการครอบครอง แต่โจทก์ก็ไม่มีสิทธิอันใดที่จะอ้างอาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาขึ้นฟ้องร้องเรียกเอาที่พิพาทคืนจากจำเลยได้ โดยสิทธิครอบครองของโจทก์ได้หลุดมือไปอยู่กับจำเลยแล้ว สิทธิจะฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองจากจำเลยก็สูญเสียไปหมดแล้ว ศาลก็ชอบที่จะพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้ แม้จำเลยจะมิได้กล่าวอ้างขึ้น เพราะเป็นเรื่องที่โจทก์ไม่มีอำนาจที่จะฟ้องได้โดยชอบด้วยกฎหมาย(อ้างฎีกาที่ 1646/2505).