โจทก์ฟ้องว่า จำเลยยืมเงินโจทก์ 20,000 บาท สัญญาว่าจะชำระคืนภายใน4 เดือน หากถึงกำหนดไม่ชำระยอมให้ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ปรากฏตามสำเนาหนังสือสัญญาท้ายฟ้อง จำเลยค้างชำระดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเป็นเงิน 4,841 บาท 66 สตางค์ รวมต้นเงินจึงเป็นเงินที่จำเลยต้องชำระแก่โจทก์ 24,841 บาท 66 สตางค์ ให้จำเลยชำระเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีในต้นเงิน20,000 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะชำระให้โจทก์
จำเลยให้การว่า สำเนาเอกสารท้ายฟ้องเป็นสัญญาการประมูลแชร์ หาใช่หลักฐานการกู้ยืมเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 ไม่ แม้จะฟังว่าเป็นการประมูลเงินแชร์ก็ขัดกับวัตถุประสงค์ของโจทก์ ความจริงจำเลยกับพวกร่วมกันเล่นแชร์โดยอาศัยสถานที่และเอกสารต่าง ๆ ในนามของโจทก์ เสียค่าบริการให้โจทก์ครั้งละ 5 เปอร์เซ็นต์ของเงินที่ผู้ประมูลได้รับจำเลยประมูลแชร์ได้รับเงินไปแล้ว และทำสัญญาให้โจทก์ไว้ตามสำเนาท้ายฟ้องต่อมาจำเลยได้ชำระค่าแชร์เสร็จสิ้นแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ฯลฯ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่า หลักฐานตามเอกสารหมาย จ.1 ที่โจทก์นำมาฟ้องมีข้อความชัดเจนแล้วว่า จำเลยเป็นหนี้โจทก์อยู่ตามเอกสารนั้น
ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า เอกสารหมาย จ.1 (สัญญาการประมูลเงินแชร์) มีมูลกรณีเนื่องจากการเล่นแชร์ อันเป็นมูลหนี้อย่างหนึ่งซึ่งบังคับกันได้แม้จะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ แต่เมื่อโจทก์ฟ้องเป็นเรื่องกู้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 ศาลฎีกาไม่อาจบังคับจำเลยตามมูลหนี้ดังกล่าวได้เพราะการเล่นแชร์เปียหวยไม่เป็นการกู้ยืม ฯลฯ
พิพากษายืน ฯลฯ