คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 511/2492

ผู้ร้องได้ร้องขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินโฉนดมีชื่อนายวันเป็นเจ้าของเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องโดยผู้ร้องได้ครอบครองที่ดินรายนี้มาโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมากว่า10 ปีแล้ว ผู้คัดค้านอ้างว่า นายวันเป็นบิดาผู้คัดค้าน

เมื่อ 10 ปีเศษนายวันได้นำโฉนดที่ดินรายนี้ไปวางประกันเงินกู้นายท้วมและให้ทำกินต่างดอกเบี้ย นายท้วมตายโฉนดจึงตกอยู่แก่ผู้ร้องดังนี้ เป็นหน้าที่ของผู้คัดค้านจะต้องนำสืบก่อน ในเมื่อผู้คัดค้านรับว่าผู้ร้องได้ครอบครองมากว่า 10 ปีแล้ว

นายฉิมได้ยื่นคำร้องต่อศาลว่า เมื่อ 18 ปีมานี้ นายวันเป็นเจ้าของที่ดินโฉนดที่ 4598 ได้ขายที่รายนี้ให้แก่ผู้ร้อง แล้วมอบโฉนดให้ผู้ร้องครอบครองสืบมาจนทุกวันนี้ นายวันได้ตายมา 14-15 ปี ไม่มีทายาทจะมาแก้ทะเบียน ผู้ร้องได้ครอบครองมาโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของกว่า 10 ปีแล้ว ขอให้ศาลแสดงว่า ที่รายนี้เป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้ร้อง และให้ถอนชื่อนายวันออก และใส่ชื่อผู้ร้องผู้คัดค้านคัดค้านว่า นายวันเป็นบิดาผู้คัดค้าน เมื่อประมาณ 10 ปีเศษ นายวันได้นำโฉนดรายนี้ไปประกันเงินกู้ไว้กับนายท้วมให้ที่ดินทำกินต่างดอกเบี้ย นายท้วมตาย โฉนดจึงตกอยู่กับผู้ร้อง ผู้คัดค้านไปขอชำระหนี้แต่ผู้ร้องไม่ยอม ผู้ร้องและผู้คัดค้าน ไม่สืบพยานทั้ง 2 ฝ่าย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ตามกฎหมายให้ถอนชื่อนายวันออก และใส่ชื่อผู้ร้องเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ต่อไป

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้คัดค้านฎีกาว่า ผู้ร้องจะต้องนำสืบก่อน

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เรื่องนี้ แม้โฉนดที่พิพาทจะมีชื่อบิดาผู้คัดค้านเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ก็ดี ย่อมตกเป็นหน้าที่ของผู้คัดค้านต้องนำสืบก่อน เพราะผู้คัดค้านรับว่าผู้ร้องได้ครอบครองมากว่า 10 ปีแล้ว

พิพากษายืน