โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ฝากข้าวเปลือกจำเลยไว้ในยุ้งจำเลย 1,200 ถังในจำนวนนี้หักเป็นค่าเช่าเสีย 360 ถัง ใช้หนี้ที่ยืมข้าวจำเลยมา 40 ถัง เอาไปสี 60 ถัง เอาไปเป็นข้าวปลูก 40 ถัง คงเหลือ 700 ถัง ราคา 5,950 บาท โจทก์ไปขอรับจำเลยโต้แย้งว่าที่เหลือหักกลบลบหนี้กันหมด จึงมาฟ้องขอให้ศาลบังคับ
จำเลยต่อสู้ว่าข้าวที่โจทก์ฝากหักเป็นค่าเช่านาบ้าง ค่าเช่า กระบือบ้าง ชำระค่าเงินกู้บ้าง โจทก์มารับไปเก็บไว้บ้านนางขอบ้างโจทก์เอาไปกินเองบ้างรวมแล้วหมดข้าวที่โจทก์นำมาฝากไว้
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่า ให้จำเลยส่งข้าว497 ถัง ราคา 3,926 บาท 30 สตางค์ แก่โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ ว่าในจำนวนข้าวเปลือกที่โจทก์ฝากจำเลยไว้ 960 ถัง คิดเป็นค่าเช่านาเสียไร่ละ 10 ถัง รวมเช่านา 2 แปลง 36 ไร่ รวมคิดเป็นค่าเช่า 360 ถัง ใช้ค่าข้าวเปลือกที่โจทก์ขอยืมจำเลยไปใช้สอย 40 ถัง ส่วนค่าเช่ากระบือนั้นคิดค่าเช่าไม่ได้เพราะศาลฟังว่าโจทก์ได้ซื้อกระบือจำเลยไปใช้ไถนาแต่ยังมิได้ชำระราคา เป็นแต่ตกลงกันว่าเมื่อได้ข้าวแล้วโจทก์จึงจะชำระค่ากระบือให้จำเลย เมื่อโจทก์ได้ข้าวแล้วไม่ชำระก็ชอบที่จะฟ้องเรียกเอาจะมาหักข้าวที่ฝากเป็นค่าเช่ากระบือไม่ได้ เพราะมิได้มีการตกลงพิเศษ ส่วนในข้อที่จำเลยจะขอให้ศาลหักกลบลบหนี้เงินที่จำเลยว่าโจทก์กู้ไปจากจำเลย 2,075 บาทกับข้าวเปลือกที่โจทก์ฝากไว้และยังเหลืออยู่นั้น แม้จะเป็นจริงดังกล่าวอ้างก็หักกลบลบหนี้ไม่ได้เพราะหนี้ที่จะเอามาหักกลบลบกันได้จะต้องเป็นมูลหนี้อันมีวัตถุอย่างเดียวกัน